จัดหนักจัดเต็มจริง ๆ เท่าที่ดูส่วนใหญ่จะเป็นมาตรการช่วยเหลือประชาชนให้อยู่รอด, รวมถึงภาคเอกชน SMEs ที่เจอแรงกระแทกจากโควิด และจัดเต็มเรื่องสาธารณสุข   และไม่แน่ครับว่า เราอาจจะพอมองเห็นมาตรการที่สามารถเอามาใช้ในบ้านเราได้ครับ   หลายมาตรการเด็ดขาดมาก   =============   1. ส่วนแรกจะจ่ายตรงให้กับคนอเมริกันสูงสุด 1,200 เหรียญหรือ 3.6 หมื่นบาท   แต่ถ้าแต่งงานแล้วก็จะได้ 2,400

  #ลงทุนนอกโลก โดย #ถามอีกกับอิก   ========   คาดการณ์ตัวเลขโอกาสคนตกงาน   1. “25 ล้านคน” คือตัวเลขประมาณการณ์เบื้องต้นของ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ หรือ ILO ที่มองว่าคนทั้งโลกกำลังจะตกงานครั้งใหญ่ จากโควิด 19   2.เป็นตัวเลขคนตกงานที่สูงกว่าวิกฤตเศรษฐกิจครั้งล่าสุดในปี 2008 ครับที่ตอนนั้นมีรายงานว่ามีคนตกงาน 22 ล้านคน

  1.เศรษฐกิจสิงค์โปร์หดตัว 2.2% ในไตรมาสแรกหลังเจอปัญหาโควิด 19   สิงคโปร์เป็นประเทศแรกๆที่ประกาศตัวเลข GDP ออกมาในรอบนี้เลยครับ ปรากฏว่าลดลง 2.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่ร่วงมากถึง 10.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า   แต่พอไปดูไส้ในจะเห็นว่าจริงๆแล้วเป็นการคาดการณ์จากตัวเลขเดือน มกราคม และกุมภาพันธ์ เพราะยังไม่ถึงสิ้นเดือนมีนาคมครับ แต่ก็พอจะเห็นภาพว่าเศรษฐกิจสิงคโปร์จะเป็นอย่างไร   ทำให้ตอนนี้รัฐมนตรีกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมปรับตัวเลขประมาณการณ์เศรษฐกิจเป็นติดลบตั้งแต่ ลบ 1%

#ลงทุนนอกโลก โดยเพจ #ถามอีกกับอิก   สด ๆ ร้อน ๆ เลยครับ อ่านแล้วจะเริ่มเข้าใจมาตรการของเฟดมากขึ้นครับ   =============   1. “เศรษฐกิจสหรัฐจะถดถอยอย่างรุนแรง” อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ ประเมินว่าไตรมาสหน้าอาจจะเห็นเศรษฐกิจถดถอยเลย เพราะทุกสิ่งทุกอย่างถูกปิดตัวลง   “แต่หลังจากนั้นก็จะเริ่มฟื้นกลับมาได้ในเวลาไม่นาน” แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องไม่ทำลายตลาดแรงงาน และไม่ทำลายธุรกิจ (ธุรกิจยังไม่ล้มหายตายจากไป)   ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นก็จะมีโอกาสได้เห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้เร็วประมาณนึง

  1. Bill Gates อภิมหาเศรษฐีคนดัง มองว่าสหรัฐรับมือกับโควิด ช้าไป พร้อมให้คำแนะนำสำหรับรัฐบาลสหรัฐ   จริง ๆ แล้ว คุณ Bill Gates เจ้าพ่อ Microsoft เคยเตือนมาตั้งแต่ปี 2015 แล้วครับว่าโลกของเราไม่พร้อมเลยที่จะรับมือกับโรคระบาดครั้งใหญ่ครับ เพราะมีการลงทุนด้านนี้น้อยมาก ๆ   โอเค นั่นคือคำเตือนในอดีตครับ

  1.นายกฯอังกฤษสั่ง Lockdown ปิดประเทศและห้ามทุกกิจกรรมหลังยอดผู้เสียชีวิตพุ่งมากขึ้น   เป็นคำแถลงการณ์ที่เอาจริงเอาจังมากครับสำหรับรอบนี้ โดยนายกฯอังกฤษ สั่งให้คนอังกฤษอยู่ที่บ้าน เพื่อหยุดการแพร่ระบาดโคโรนาไวรัส   ล่าสุดเช้านี้ จำนวนผู้ติดเชื้อในอังกฤษอยู่ที่ 6,650 ราย (เพิ่มขึ้น 967 ราย) และมีผู้เสียชีวิตสูงถึง 335 ราย   “ตอนนี้สั่งให้คนอังกฤษอยู่บ้าน ยกเลิกงานแต่งงาน และยกเลิกการรวมตัวกันของประชาชน” ร้านรวงทุกร้านจะต้องปิด เช่นร้านขายเสื้อผ้า ห้องสมุด สนามเด็กเล่น โรงยิม   (ยกเว้นร้านที่ขายของที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต)   รอบนี้เป็นการ lockdown แบบจริงจังและเต็มรูปแบบครับ โดยจะให้คนออกจากบ้านเพียงแค่ไปซื้อของที่จำเป็นต่อชีวิตจริงๆครับเช่น ซื้อของอุปโภคบริโภค, ไปหาหมอ, ไปทำงาน (เฉพาะเท่าที่จำเป็น)   “ถ้าคุณไม่ทำตามกฏหมาย จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาสั่งปรับจริงจัง” นายกฯอังกฤษบอกครับ   ปัญหาของประเทศเสรี คือไม่สามารถควบคุมประชาชนได้เข้มงวดเหมือนกับจีน ทำให้การทำ social distancing (แยกกันอยู่) อาจจะไม่ได้ผลเท่าที่ควร เลยทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงมาก ๆ ครับ   ========   2. หุ้นที่ Temasek Holdings ถือ ร่วงลงเกือบ 7 แสนล้านบาทในช่วง 3 เดือนนี้   กองทุนเพื่อการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์เป็นยักษ์ใหญ่ของวงการลงทุนเลยครับ โดยนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาหุ้นที่กองทุนนี้ถืออยู่ร่วงหนักถึง 2.4 หมื่นล้านเหรียญ หรือเกือบ 7 แสนล้านบาท

แปลและเรียบเรียงโดย #ลงทุนนอกโลก โดยเพจถามอีกกับอิก   วันก่อน “ลงทุนนอกโลก” ได้อ่านบทความของ นักข่าว คุณ LAURIE GARRETT ที่เน้นทำข่าวโรคระบาดโดยเฉพาะ ผ่านมาแล้วกว่า 30 ครั้ง   ปรากฏว่าเค้าไม่เคยติดโรคเลยครับ เพราะรู้วิธีในการดูแลตัวเอง ถึงขั้นบอกว่าต่อให้อยู่ในห้องเดียวกับผู้ป่วยก็ไม่กลัวติด ถ้าเรารู้วิธีป้องกันตัวเราเอง   มาดูคำแนะนำในการดูแลตัวเองเพื่อป้องกัน โควิด 19   =========  

#ลงทุนนอกโลก โดย #ถามอีกกับอิก   ========   1. ประเมินเบื้องต้นว่าเอกชนในสหรัฐจะได้รับผลกระทบจากโควิด 19 สูงถึง 4 ล้านล้านเหรียญ แต่ถ้านับทั้งโลกจะเห็นว่าอาจจะได้รับผลกระทบสูงถึง 12 ล้านล้านเหรียญ   (คิดเป็นเงินไทย ไม่ถูกเลยครับ)   2. และมองว่าธนาคารกลางทั่วโลกตอนนี้กำลังสูญเสียความสามารถในการกระตุ้นเศรษฐกิจ   โดยมองว่า ธนาคารกลางสหรัฐยังใช้เงินไม่มากพอที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ได้  

  มูลค่า 7.5 แสนล้านยูโร ทำให้ตลาดหุ้นโลกเช้านี้เริ่มเด้งครับ   #ลงทุนนอกโลก โดย #ถามอีกกับอิก   1. ถือว่า เป็น surprise ตลาดเหมือนกันครับ เมื่อ ธนาคารกลางยุโรป ใช้ชื่อว่า Pandemic Emergency Purchase Program เข้าซื้อสินทรัพย์ต่างๆมูลค่า 7.5 แสนล้านยูโร หรือ 8.19

  1. ที่ปรึกษาเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์ โยนหินถามทางว่ารัฐบาลอาจจะเข้าไปถือหุ้นบริษัทที่ต้องการความช่วยเหลือการเงิน   “หนึ่งในไอเดียตอนนี้ คือ ถ้าเราเข้าไปช่วยเหลือด้านการเงินกับบริษัทไหนก็ตาม” “เรากำลังพิจารณาว่าจะเข้าไปถือหุ้นบริษัทนั้น ๆ” คุณ Larry Kudlow ที่ปรึกษาสูงสุดด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐบอกครับ   เป็นผลจากคำวิพากย์วิจารณ์ ที่บอกว่าทำไมรัฐบาลมักจะนำเงินภาษีประชาชนไปอุดหนุนบริษัทยักษ์ใหญ่ และสุดท้ายพอบริษัทเหล่านั้นฟื้น เค้าก็จะเอาเงินไปซื้อหุ้นของตัวเอง และจ่ายเงินปันผลเยอะ ๆ และจ่ายโบนัสให้กับผู้บริหารระดับสูง   “ตอนนี้มีอุตสาหกรรมการบิน โรงแรม