CPALL ประกาศผลประกอบการ ลดลง 40% แต่ไม่ขาดทุน

2501

อย่าลืม Subcribe จะได้ไม่พลาด

Facebook | Youtube | Line | Website

1. ไตรมาสที่ 2 ของ CPALL เจ้าตลาดร้านสะดวกซื้อในบ้านเรา มีรายได้ 1.28 แสนล้านบาท ลดลง 10.6% ส่วนกำไรอยู่ที่ 2,887 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้ว 40%

2. เหตุผลหลักๆเป็นเพราะรัฐบาลใช้มาตรการ lockdown เพื่อป้องกันโควิด โดยเดือนที่เจอผลกระทบมากที่สุดคือ เดือนเมษายน และเริ่มดีขึ้นในเดือน พฤษภาคม และ มิถุนายน

3. เมื่อเข้าไปดูรายได้จะเห็นว่า รายได้ในช่วงครึ่งปีแรก สัดส่วนมากที่สุดคือ รายได้จากร้านสะดวกซื้อ 64% , รายได้จากธุรกิจค้าส่งแบบชำระเงินสดและบริการตัวเอง สัดส่วน 36%

4. ปัจจุบัน 7-11 มีสาขา 12,089 สาขา (เปิดเพิ่มเติมในไตรมาสที่ 2: 106 สาขา) โดยเป็นร้านแบบ stand alone 85% ที่เหลือเปิดในปั๊ม ปตท.

5. ยอดขายเฉลี่ยต่อร้าน ต่อวัน 66,950 บาท (ของร้านสะดวกซื้อ)

6. ยอดซื้อต่อบิลของร้านสะดวกซื้อ อยู่ที่ 79 บาท และมีลูกค้าต่อสาขาจำนวน 841 คน

7. ทั้งนี้ 7-11 ก็ได้ปรับตัวหลายอย่างครับ ทั้ง การขายสินค้าผ่านระบบ O2O เช่น 7 Delivery , All online, 24shopping แต่ก็ยังไม่สามารถชดเชยกับรายได้ที่หายไปจากหน้าร้านได้

8. โดยไส้ในของรายได้ของ ร้าน 7-11 มาจากอาหาร 71.7% ส่วนอีก 28.3% มาจากสินค้าอุปโภคบริโภค แต่ไม่รวมบัตรโทรศัพท์ครับ และที่เหลือเป็นรายได้จากค่าส่งเสริมการขายร่วมกับคู่ค้า

9.อัตราส่วน D/E อยู่ที่ 1.17 x เพิ่มขึ้นจาก 0.94x ในช่วงปลายปีที่แล้ว เพราะมีการออกหุ้นกู้และมีเงินกู้ระยะสั้นจากสถาบันการเงิน

#เริ่มต้นวันนี้ดีที่สุด ขอให้ทุกท่านโชคดีและมีอิสรภาพในการใช้ชีวิต

อิสรภาพชีวิต !! อยู่ไหนก็ไม่พลาด อย่าลืมกดติดตามนะครับ หรือเพิ่มช่องทางการสื่อสารได้เลย

#ถ้าไม่อยากพลาดแนวคิดการลงทุนและไอเดียการลงทุนดีๆ อย่าลืมกด subscribe และ กดกระดิ่งนะครับ

TAM-EIG

TAM-EIG

#ทุกเรื่องที่นักลงทุนต้องรู้

2501

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save
error: Content is protected !!