อาจารย์สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง ได้อ่านเกมสถานการณ์รัสเซียกับความคิดของปูตินเอาไว้ว่า เวลานี้ปูตินกำลังทำ 2 เรื่อง เรื่องที่หนึ่งก็คือเอาชนะในสนามรบ และเรื่องที่สอง ก็คือบุกหนักและสร้างความรุนแรงเพื่อที่จะใช้อำนาจในการเจรจาต่อรอง เพราะปูตินคิดว่าตัวเองยังคงมีความได้เปรียบอยู่ เหตุผลเพราะว่าปูตินอาจจะไม่ได้เดินเกมไปตามแผน จากตอนแรกคิดว่าจะใช้เวลา 2-3 วันสงครามก็น่าจะเห็นผล จนกระทั่งผ่านเลยมาจนเข้าสู่อาทิตย์ที่ 3แล้ว แต่ว่าแม้ว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่ได้เป็นไปตามที่ได้วางแผนไว้ ปูตินยังมีไพ่เหลืออยู่ อยู่มาจากการที่เขาไม่ได้ใช้กำลังทั้งหมด เขาอาจสามารถเพิ่มกำลังตรงนี้ได้ อีกกรณีหนึ่งก็คือ เขายังมีกำลังเสริมที่ตอนนี้กำลังมาแล้ว
ส่วนยูเครนในเวลานี้ ยังคงเน้นในเรื่องการเจรจา เพราะที่ผ่านมาทั้ง่ายถือว่าหนักหนาสาหัสมาพอสมควร จึงเป็นเวลาที่ต่างฝ่ายต่างเริ่มที่จะหันมาพูดคุยเจรจากันมากขึ้น อย่างไรก็ตามสิ่งที่ต้องติดตามดูคือ การเจรจาต่อรองจะประสบความสำเร็จแบบ Win-Win หรือไม่ หรือ ถ้ามีฝ่ายหนึ่งเหนือกว่าฝ่ายตรงข้ามมาก ๆ การเจรจาก็จะจบลงด้วย Zero-Sum Game
ขณะที่ทาง NATO กับชาติตะวันตกกำลังบีบรัสเซียด้วยการรุมคว่ำบาตรรัสเซียเพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้ปูตินรู้ว่า เรื่องการรบต้องชะลอลงและเป็นการให้ประชาชนชาวรัสเซียสร้างแรงกดดันต่อปูติน ตอนนี้ทางสหรัฐอเมริกาได้มีการหยุดสั่งซื้อน้ำมันและก๊าซจากรัสเซียซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญอันหนึ่ง สหภาพยุโรปก็ได้มีการพูดคุยกันเรื่องยูเครนและพลังงาน แต่เนื่องจากยุโรปยังต้องพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียจำนวนมาก คาดว่ายุโรปน่าจะค่อย ๆ ลดการซื้อลงปีนี้ประมาณ 2 ใน 3 และในอนาคตยุโรปมีแนวโน้มที่จะลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซีย ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ทางสหรัฐอเมริกากับยุโรปจะเริ่มมีการลดสถานะการทำการค้าโลกของรัสเซียในส่วนของ Free and Fair Trade ด้วย
อย่างไรก็ตาม อาจารย์สมชายมองว่าสงครามครั้งนี้ไม่น่าจะยืดเยื้อ ซึ่งตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลก ลดลง 3.2 % จากตอนแรกอยู่ที่ 5.4 % หมายความว่าเศรษฐกิจยังมีแนวโน้มที่จะขยายตัวเป็นบวกอยู่ เว้นแต่ว่าสถานการณ์บานปลายถึงขั้นมีการรบกันระหว่าง NATO กับรัสเซียก็มีโอกาสจะเกิด Stagflation ได้
