คุณสุรนัย โรจน์วงศ์จรัต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. สหไทยการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ (STP) ได้พูดถึงโมเดลทางธุรกิจของหุ้น STP หุ้นน้องใหม่ผู้นำธุรกิจการพิมพ์บรรจุภัณฑ์กระดาษและสิ่งพิมพ์เอาไว้ว่า ผลิตภัณฑ์ของบมจ. สหไทยการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ (STP) ได้ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ทางด้านการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ โดยส่วนใหญ่จะมีการผลิตบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารสัตว์, เบเกอรี่, เครื่องดื่ม, รองเท้า, อุปกรณ์การแพทย์และสินค้าอุปโภคบริโภค
ในส่วนของสัดส่วนรายได้กับลูกค้านั้น ทางบมจ. สหไทยการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ (STP) สามารถทำกำไรได้จากกลุ่มลูกค้าในส่วนของอุตสาหกรรมอาหารได้มากถึง 91% ในช่วงปีที่ผ่านมา โดยที่ 91% ของอุตสาหกรรมอาหารนั้น หลัก ๆ มาจากอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ที่มีการเติบโตมากขึ้นถึง 22% ที่อุตสาหกรรมนี้มีการเติบโตมากขึ้นโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 3% เมื่อเทียบกับในช่วงไตรมาส 1 ของปี 2021 กับปี 2022 เช่นกันทางด้านศูนย์วิจัยของกสิกรไทยได้คาดการณ์ว่า ธุรกิจอาหารสัตว์ในประเทศไทยจะมีการเติบโตมากขึ้นถึง 20% ในปีนี้
คาดว่าในอนาคตอุตสาหกรรมอาหารสัตว์จะมีการเติบโตมากขึ้นในปี 2026 สอดคล้องกับอัตราการเติบโตของพอร์ตเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้นหรือ CAGR ในส่วนของไตรมาสที่ 2 ของปีนี้นั้น ทางบมจ. สหไทยการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ (STP) มีแผนที่จะทำการขยายการผลิตมากถึง 50 % ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้และตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่า ทางบริษัทจะได้ผลกำไรมากถึง 750 ล้านบาทภายในระยะเวลา 5 ปี พร้อมกับตั้งเป้าอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยเอาไว้ที่ 5-15 %
แผนการขยายการผลิตของบริษัทหลัก ๆ แล้วจะมาจากการระดมทุนจากหุ้น IPO ของบริษัทเอง และเบื้องต้นทางบมจ. สหไทยการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ (STP) จะทำการลงทุนสำหรับการขยายการผลิตที่ 360 ล้านบาท โดยมีการลงทุนในส่วนของเครื่องจักรประมาณ 290 ล้านบาท และสร้างโรงงานสำหรับการผลิตและคลังสินค้าที่ประมาณ 70 ล้าน คาดว่าผู้บริโภคทุกคนจะไม่มีการเปลี่ยนใจหันไปใช้บริการคู่แข่งรายอื่นของทางบมจ. สหไทยการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ (STP) อย่างแน่นอน
