Jamie Dimon สุดยอด CEO JPMorgan Chase เตือนวิกฤตครั้งใหญ่

Jamie Dimon ซีอีโอ JPMorgan Chase ฟันธงว่า มีความเสี่ยงที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงที่กำลังต่อสู่กับภาวะเงินเฟ้อที่กำลังเร่งตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ⁣⁣
⁣⁣
โดยคุณ Jamie กล่าวว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจยังคงดำเนินต่อไปอย่างน้อยในช่วงไตรมาส 2-3 ของปีนี้ จากการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการชำระคืนหนี้⁣ “แต่พอผ่านหลังจากนั้นแล้ว มันเป็นเรื่องยากในการคาดการณ์ คุณจะเห็น 2 ปัจจัยหลัก ๆ ที่จะมีผลกระทบหนัก” นั่นคือเงินเฟ้อและนโยบายการเงินแบบตึงตัว ⁣หรือการใช้นโยบาย QT หรือยุติการซื้อพันธบัตร⁣⁣
⁣⁣
“คุณจะไม่เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ผมเคยมองว่า มรสุมที่เกิดขึ้นนี้อาจจางหายไป แต่มันก็ไม่ได้จางหายไปไหน”⁣⁣
⁣⁣
Dimon ได้เผยเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจ โดยมองว่าในช่วงปีที่ผ่านมาสหรัฐอเมริกาเพลิดเพลินไปกับภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตสูงและอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ระดับที่ควบคุมได้ โดยคาดว่าจะเป็นแบบนี้จนถึงปี 2023 ⁣⁣
⁣⁣
แต่เงินเฟ้อที่สูงขึ้นที่เกิดจากวิกฤตรัสเซียกับยูเครนที่เริ่มจะมีผลกระทบมากขึ้น⁣⁣
⁣⁣
ความเสี่ยงเริ่มสูงขึ้นเมื่อทาง JPMorgan ได้ประกาศว่าได้รับผลกำไรลดน้อยลงกว่า 42 % เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ จากต้นทุนการกู้ยืมสำหรับหนี้ที่ไม่มีคุณภาพและความปั่นป่วนของตลาดที่เกิดจากสงครามยูเครน⁣⁣
⁣⁣
ผู้บริหารหลายคนของ JPMorgan Chase กล่าวว่า ผู้กู้ยืมยังมีความสามารถในการชำระหนี้ท่ามกลางการที่ ธนาคารกลางสหรัฐกำลังเดินหน้านโยบายที่อาจนำไปสู่ความถดถอยได้ ⁣⁣
⁣⁣
สอดคล้องกับ Jeremy Barnum CFO ของบริษัทได้กล่าวว่า ในอดีตธนาคารกลางสหรัฐได้เพิ่มอัตราดอกเบี้ยไปเรื่อย ๆ จนถึงจุดที่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ หดตัวลง ⁣⁣
⁣⁣
หุ้นธนาคารส่วนใหญ่มีการปรับตัวลดลงในปีนี้แม้จะมีการปรับดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นก็ตาม ทั้งๆที่ควรจะเป็นการเพิ่มอัตราทำกำไรจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เพิ่มมากขึ้น ⁣⁣
⁣⁣
เนื่องจากแนวโน้มผลตอบแทนเริ่มมีกราฟแบนราบลงมา และเริ่มเกิดภาวะ inverted ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า เศรษฐกิจจะถดถอยในอนาคต⁣⁣
ผู้บริหารของ JPMorgan ได้กล่าวชัดเจนว่า พวกเขาไม่ได้คาดการณ์ภาวะถดถอยที่เกิดขึ้น แต่กังวลในเรื่องเงินเฟ้อที่สูงเป็นหลัก ซึ่งมาจากปัจจัยทางด้านสงครามยูเครนและโควิด-19 เช่นเดียวกับการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ยังคงมีแนวโน้มทำแบบเดิม ⁣⁣
⁣⁣
“สงครามเป็นเรื่องยากในการคาดการณ์ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น คุณเห็นตลาดน้ำมันในเวลานี้แล้ว ตลาดน้ำมันเริ่มมีความไม่แน่นอนมากขึ้น” Dimon กล่าว “ผมหวังว่าสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะหมดลงไป พวกเราจะต้องแก้ไขปัญหาอย่างละมุมละม่อม และสงครามก็จะคลี่คลายลงไป แต่ผมคงไม่ไปเดิมพันกับเรื่องแบบนี้ไปทั้งหมดหรอกครับ”⁣⁣
⁣⁣⁣⁣⁣
⁣⁣#ถามอีกกับอิก #ทุกเรื่องที่นักลงทุนต้องรู้ #TAMEIG⁣⁣⁣