Kodak ฟื้นคืนชีพบวกรวดเดียว 24 เด้งภายใน 2 วัน กับข้อกังหา insider trading ที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์

1832

#ลงทุนนอกโลก โดยเพจ #ถามอีกกับอิก

 

=================

 

#ราคาหุ้นของ Kodak อดีตราชาแห่งวงการกล้อง ดีดมากถึง 33 เด้งภายในเวลาเพียง 4 เดือน แต่ถ้าจะให้ตื่นเต้นหน่อยคือดีดแรงสุดๆ 24 เด้งภายในเวลาแค่ 2 วันครับ

 

คือถ้ามีตัง 1 ล้านบาทลงทุนแค่ 2 วันนี้เราจะมีตังเพิ่มขึ้นเป็น 24 ล้านบาททันทีครับ และถ้ามีตัง 1 ล้านเหรียญ ลงทุนแค่สองวัน จะเพิ่มกลายเป็น 24 ล้านเหรียญในทันทีโหดสุด ๆ ครับ

 

=================

 

ทำไมราคาหุ้น ถึงขึ้นขนาดนั้น?

 

1.เรื่องของเรื่องเป็นอย่างนี้ครับ คือ ไม่กี่วันที่ผ่านมา อยู่ๆผู้นำสหรัฐ คุณโดนัล ทรัมป์ก็ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ว่า Kodak จะได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐคิดเป็นเม็ดเงินกว่า 765 ล้านเหรียญ หรือ เกือบ 2.3 หมื่นล้านบาท!!

 

2. เพื่ออะไร? เพื่อเอาไปผลิตส่วนผสมของยา ที่จะเอามาต่อสู้กับเชื้อโควิด-19 ครับ

 

3. ดีลนี้นับว่าเป็นหนึ่งในดีลที่มีความสำคัญมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของวางการยา ของสหรัฐเลยทีเดียวครับ” คุณทรัมป์บอกครับ โดยบอกว่า “Kodak เป็นบริษัทอเมริกันที่ยิ่งใหญ่มากๆ คุณเองก็คงจะจำบริษัทนี้ได้ใช่ไหม?”

 

4. ในขณะที่ผู้บริหาร Kodak ก็ขานรับครับ บอกว่าภูมิใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนายาเหล่านี้ เพื่อปกป้องประชาชนชาวอเมริกัน

 

“จะนำเงินทุนที่ได้ไปขยายฐานการผลิตที่นิวยอร์ก และโรงงานที่iyฐมินนิโซตา” โดยจะเพิ่มการจ้างงานได้มากกว่า 1,500 ตำแหน่ง

 

5. เท่านั้นแหละครับ ราคาหุ้นวิ่งเป็นม้าเลยครับ วิ่งไม่หยุด พุ่งจนมีมูลค่าตลาด 1.45 พันล้านเหรียญ หรือ 4 หมื่นล้านบาท จนหลายคนแซวว่า นี่เป็น unicorn ตัวใหม่ของวงการธุรกิจในชั่วข้ามคืน

 

=================

 

Kodak เคยเป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่มาก

 

1. Kodak เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกัน ก่อตั้งขึ้นมาตั้งเเต่ปี 1888 เก่งด้านทำธุรกิจ ฟิล์มถ่ายภาพ

 

2. ก่อนที่จะประสบความสำเร็จแบบสุดๆ กับสโลแกน Kodak Moment ที่ให้ประสบการณ์การถ่ายภาพฟิล์มที่ดี โดยช่วงที่รุ่งเรืองมากๆมีมูลค่าตลาดสูงถึง 1 ล้านล้านบาทครับ และมีการจ้างงานสูงถึง 145,000 คน

 

3. แต่อย่างที่เรารู้กันแหละครับ ว่าหลังจากช่วงที่กล้องดิจิตอลมาแรง ทางด้าน Kodak ก็ไม่ยอมปรับตัว ทำให้สุดท้ายต้องประกาศล้มละลายในปี 2012 จนกลายเป็น กรณีศึกษาที่ถูกเอามาพูดถึงบ่อยๆเวลาจะพูดถึงบริษัทที่ปรับตัวไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลง

 

=================

 

ทำไมถูกวิพากย์วิจารณ์?

 

1. เงินที่จะนำมาให้กับ Kodak เป็น เงินกู้ที่ได้รับจากหน่วยงานความร่วมมือทางการเงินเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ เพื่อจัดตั้งบริษัท โกดัก ฟาร์มาชูติคอลส์ เพื่อ “ผลิตสารออกฤทธิ์ที่สำคัญสุดๆ แต่เกิดภาวะขาดแคลนเรื้อรังในระดับชาติ” พูดง่ายๆคือเอามาสู้กับโควิดเนี่ยแหละครับ

 

2. แต่ถ้าชวนวิเคราะห์ ก็น่าจะเป็นเพราะคุณทรัมป์ไม่อยากพึ่งพิงต่างชาติ และไม่อยากให้ supply chain ต้องพึ่งต่างประเทศ ในการผลิตยาประเภทยาสามัญ (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการผลิตยาสู้กับโควิด) มองในมุมผลประโยชน์ของคนในชาติและมองในมุมที่เค้าไปสร้างความขัดแย้งกับต่างประเทศก็คงคิดถูกครับ

 

3. แต่ประเด็นคือ โกดัก ยังไม่พิสูจน์ให้เห็นว่าเก่งด้านการผลิตยา ถึงแม้ว่าอดีตคู่แข่งอย่าง Fujifilm จะหันไปผลิตยาและเร่งมือผลิตวัคซีน ซึ่งดูเหมือนจะไปได้สวยครับ

 

4. นี่แหละครับที่ ทำให้ทุกคนงงว่าทำไม ถึงเอาเงินไปให้กับบริษัทนี้ครับ (แม้ว่า Kodak จะเริ่มผลิตวัตถุดิบยามาแล้วตั้งแต่ 4 ปีที่แล้วแต่ยังไม่สามารถ ขยายได้ใหญ่มากมายนัก)

 

5.และยิ่งถูกวิพากย์วิจารณ์อีก ที่ Kodak บอกว่าอาจจะต้องใช้เวลานานถึง 3-4 ปีกว่าจะสามารถผลิตในสเกลใหญ่ๆได้ และยังไม่มีอะไรพิสูจน์ด้วยว่าตัวยาที่ Kodak กำลังจะผลิตตกลงแล้วมีประสิทธิภาพในการสู้กับโควิดหรือไม่

 

=================

 

สิ่งที่เป็นข้อกังขา?

 

1. ราคาหุ้น Kodak พุ่งทันที 220% หลังจากที่คุณทรัมป์ประกาศดีลนี้ ก็พุ่งแรงแซงทางโค้ง (หุ้น Tesla ที่ขึ้นแรงๆ นี่ชิดซ้ายเลยครับ) หลังจากที่สาละวันเตี้ยลงไปเรื่อยๆในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บางช่วงต่ำกว่า 1.5 เหรียญด้วยซ้ำ

 

2. เท่ากับว่าราคาหุ้นพุ่งแรงมากถึง 24 เท่าภายในเวลา 2 วัน ทำให้คนกลายเป็นมหาเศรษฐีในชั่วข้ามชั่วโมง (แต่ถ้าไล่ซื้อก็อาจจะเป็นยาจกได้ ในชั่วข้ามนาที)

 

3. ประเด็นคืองี้ครับ ก่อนที่จะประกาศดีลนี้ เพียงไม่กี่วัน ปรากฏมีปริมาณซื้อขายมากกว่าปกติถึง 30 เท่า

 

4. และกังขาสุดๆเมื่อ กลต.ของสหรัฐเปิดเผยว่า มีผู้บริหารระดับสูง เข้าซื้อหุ้น Kodak เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2563 มูลค่าเฉลี่ย 2.22 เหรียญ จำนวน 46,737 หุ้น เท่ากับว่าตอนนี้กำไรทันที เกือบ 50 ล้านบาทครับ

 

5. ไม่ใช่แค่นี้ครับถ้ารวม stock option และรวม หุ้นที่เค้าถือก่อนหน้านี้นั่นหมายความว่า เค้าจะถือหุ้นใน Kodak มากถึง 215.8 ล้านเหรียญ หรือกว่า 6 พันล้านบาท!!!

 

6. และยิ่งน่าสงสัยไปอีก เพราะคุณ Peter Navaro ที่ปรึกษาด้านการค้าของประธานาธิบดีบอกว่าดีลนี้มีการพูดคุยมานานหลายเดือน ก่อนจะประกาศเมื่อวานนี้ นั่นหมายความว่ามีคนรู้ก่อนแน่ๆ เพียงแต่จะมีคนรู้ก่อนแล้วไปดักซื้อหุ้นก่อนไหม อันนี้ต้องรอการพิสูจน์ของกลต.

 

ซึ่งหากพบว่าผิด นี่ก็อาจจะเป็น insider trading ที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์สหรัฐก็เป็นได้ครับ

 

========

 

#ถ้าไม่อยากพลาดแนวคิดการลงทุนและไอเดียการลงทุนดี ๆ อย่าลืมกด subscribe และ กดกระดิ่งนะครับ 🙂

 

https://www.youtube.com/channel/UCnj8uUh6SHdZi3FvWJj9Dyw?view_as=subscriber

TAM-EIG

TAM-EIG

1832

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save
error: Content is protected !!