Domino Pizza หุ้น “เทคโนโลยี” ที่ทำพิซซ่าขาย…. สุดยอดหุ้น 124 เด้ง นับตั้งแต่วิกฤตรอบล่าสุด

1926

#ลงทุนนอกโลก โดยถามอีก กับอิก

 

========

 

ถ้านึกถึงร้านพิซซ่าชื่อดัง เรานึกถึงร้านไหนครับ?

 

ส่วนใหญ่คนไทยก็จะนึกถึง Pizza Hut หรือ ถ้าในไทยก็จะนึกถึง The Pizza Company ใช่ไหมครับ

 

แต่ถ้ามองระดับโลก เชนร้านพิซซ่าที่มียอดขายมากที่สุดในโลก คือ Domino Pizza ครับ

 

แต่สิ่งที่ว๊าวมากคือ ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นมากถึง 124 เท่า นับตั้งแต่ปี 2008 คือพูดง่ายๆว่า ถ้าเราลงทุน 1 แสนบาท เมื่อ 10 ปีที่แล้ว วันนี้เราจะมีตัง 12.4 ล้านบาท

 

แต่ถ้าเรามีตังลงทุน 1 ล้านบาท วันนี้เราจะมีตังในพอร์ตกว่า 124 ล้านบาท!!??!! (ถ้าไม่ขายไปซะก่อนนะ 555)

 

กลายเป็นหุ้นในตำนานที่หลายคนนึกไม่ถึงไปละครับ

 

========

 

Domino Pizza เพิ่งจะประกาศผลประกอบการ (#ข่าวเช้าตรู่ส่งถึงมือคุณ! โดยเพจ “ถามอีก กับอิก” เล่าให้ฟังไปแล้วครับ)

 

1. รายได้ไตรมาสที่ 4 สูงถึง 1.15 พันล้านเหรียญ มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาด

 

2. ในขณะที่กำไรเองก็สวยงามครับสูงถึง 129.3 ล้านเหรียญ มากกว่าคาดถึง 20%

 

3. ยอดขายต่อสาขาเดิม หรือ same store sale ในสหรัฐสูงถึง 3.4% และต่างประเทศเพิ่มขึ้น 1.7%

 

4. ขยายสาขามากถึง 500 สาขาทั่วโลก (สาขาทั้งหมดมีกว่า 16,500 สาขา)

 

5. จ่ายเงินปันผล และซื้อหุ้นคืนมากถึง 650 ล้านเหรียญสหรัฐ

 

แต่สิ่งที่สะดุดตา “ลงทุนนอกโลก” คือตัวเลขยอดขายต่อสาขาที่เพิ่มขึ้นเป็นไตรมาสที่ 35 ติอต่อกันในสหรัฐ แต่ถ้าดูเฉพาะต่างประเทศก็จะพบว่ายอดขายต่อสาขาเพิ่มขึ้นติดต่อกันมากถึง 104 ไตรมาสครับ

 

ไม่แปลกใจละครับว่า ทำไม Domino Pizza ถึงมีมูลค่าตลาดสูงถึง 1.52 หมื่นล้านเหรียญ หรือ 4.6 แสนล้านบาท

 

ในขณะที่ ค่า P/E อยู่ที่ 39x โหดสุด ๆ ครับ

 

========

 

จุดเริ่มต้นของตำนานความยิ่งใหญ่

 

นู้นเลยครับ ต้องย้อนไปช่วงปี 1960 ที่สองพี่น้องครอบครัว Monaghan ได้ซื้อกิจการร้านพิซซ่า เล็ก ๆ ใน มิชิแกน ด้วยเงินเพียง 500 เหรียญ (สมัยนั้นน่าจะถือว่าเยอะ)

 

โดยช่วงแรกตั้งชื่อร้าน ตามเจ้าของเดิม ที่ชื่อ DomiNick “ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Domino’s Pizza ในอีก 5 ปีให้หลัง” เพราะเจ้าของเดิมไม่ให้ใช้ชื่อแล้ว

 

ก่อนที่จะเริ่มขาย แฟรนไชส์ ในปี 1978 ทำให้จำนวนสาขาเติบโตก้าวกระโดดมาจนถึงปัจจุบัน

 

========

 

ทุกอย่างไม่ได้สวยหรู ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบครับ

 

ไม่น่าเชื่อว่า Domino Pizza เคยได้รับการจัดอันดับว่าเป็น เชนร้านอาหารที่แย่ที่สุดในสหรัฐ

 

และก็สะท้อนไปยังราคาหุ้นที่ตกต่ำ เหลือเพียง 3 เหรียญ ช่วงปี 2008 ราคาลดลง 90% จากจุดสูงสุดของรอบนั้น (ปล. วันนี้ ราคาหุ้นอยู่ที่ 373 เหรียญ!)

 

รู้งี้! ซื้อหุ้นตั้งแต่วันนั้นก็ดีเนอะ

 

========

 

แต่ทุกวิกฤต ย่อมมีโอกาสเสมอ!

 

1. เป็นเจ้าแห่งเทคโนโลยี

 

ช่วงแรกที่เริ่มมีปัญหาที่ลูกค้าเริ่มบ่น บริษัทก็เริ่มใช้เทคโนโลยีเป็นเจ้าแรก ๆ

 

ใช้ระบบ ติดตาม (ให้ลูกค้าเห็นว่าตอนนี้กำลังทำพิซซ่าไปถึงขั้นตอนไหนแล้ว) , และริเริ่มการสั่งพิซซ่าทางออนไลน์เป็นเจ้าแรก ๆ แต่ยอดขายก็ยังไม่ดีขึ้นมากเท่ากับเป้าหมายที่คิดไว้

 

นั่นเป็นเพราะต้นตอของปัญหาอยู่ที่รสชาติของพิซซ่าครับ (ต่อให้ทุกอย่างดีหมด แต่ถ้าอาหารไม่อร่อยคนก็คงจะไม่ซ้ำครั้งต่อไป จริงไหมครับ)

 

2. ยอมรับข้อผิดพลาดและพร้อมแก้ไข

 

ผู้บริหารคิดใหม่ทำใหม่ครับ ลองทำโฆษณาล้อเลียนตัวเอง “พวกเราช่างทำพิซซ่าได้ห่วยจริง ๆ” ช่วยแนะนำเราหน่อย

 

ปรากฏว่ามีลูกค้าจำนวนมากช่วยกันให้ฟีดแบก ให้ความเห็น (ผู้บริหารเอาขึ้น Billboard ที่ นิวยอร์ค Timesquare โดยที่ไม่ลบ คอมเม้นต์ใดๆออกเลย)

 

ทำให้ได้ใจของลูกค้า เพราะสะท้อนให้เห็นว่าเป็นแบรนด์ที่จริงใจ หลังจากนั้นผู้บริหารก็นำคำแนะนำไปปรับปรุงทำให้ได้พิซซ่า รสชาติใหม่ ๆ ที่ไม่เคยนึกถึงมาก่อน

 

3. พัฒนาประสบการณ์สร้างความประทับใจในมุมมองของลูกค้า

 

หลังจากที่ได้คำแนะนำจากลูกค้าอย่างล้นหลามถึงรสชาติพิซซ่าที่แปลกใหม่

 

ทางผู้บริหาร ก็คิดว่าเอ…. ปัญหาของลูกค้าในยุคนี้คืออะไร? ก็เจอคำตอบที่ว่า คนยุคนี้ใจร้อนมากขึ้น เมื่ออยากกินพิซซ่าก็อยากกินเลย

 

นั่นเลยเป็นที่มาของการพัฒนาระบบการสั่งออนไลน์ให้ง่ายมากขึ้น (ไม่กี่คลิก ก็สามารถสั่งได้)

 

และลดระยะเวลาการส่งพิซซ่าร้อน ๆ ให้ถึงมือผู้บริโภคภายในเวลา 30 นาที ถ้าส่งช้าก็จะ คืนเงินให้ 3 เหรียญ (บางช่วงก็แจกฟรี ไม่คิดตังเลย)

 

และยังพัฒนาเกม เพื่อให้ลูกค้าที่เเล่นชนะก็จะสามารถสะสมแต้มมาแลกพิซซ่าฟรี ๆ กลายเป็นแคมเปญที่โด่งดังมาก ๆ

 

4. ”Domino Pizza เป็นบริษัทเทคโนโลยี ที่บังเอิญมาขายพิซซ่าเท่านั้น”

 

นี่เป็นสโลแกน ของคุณ Patrick Doyle อดีตผู้บริหารคนเก่งที่พลิกฟื้นกิจการของ Domino Pizza ได้จากหน้ามือเป็นหลังมือครับ

 

ทางผู้บริหารก็เดินหน้าเร่งพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องครับและมักจะเป็นเจ้าแรก ๆ ด้วยครับ

 

เช่น การพัฒนาระบบสั่งพิซซ่า ที่ใช้เสียง (ตอบโจทย์ลูกค้าที่ขี้เกียจกดสั่ง หรืออาจจะยุ่ง) และตอบโจทย์พนักงานด้วยครับ

 

“ผมอยากให้พนักงานโฟกัสไปที่การทำพิซซ่า ไม่ใช่การรับโทรศัพท์” ผู้บริหารบอกครับ เลยทำให้ลดขั้นตอนและเวลาในการรับ order ได้เยอะเลยครับ

 

นอกจากนี้ยังมี ส่งพิซซ่าด้วยโดรน, รถยนต์ไร้คนขับ (ที่มีเตาอบร้อนๆ พร้อมส่งถึงมือลูกค้า),

 

และยังอาสา ไปซ่อมถนนให้กับลูกค้า โดยใช้แคมเปญว่า ถนนที่ไม่ขรุขระก็จะทำให้พิซซ่าส่งถึงมือลูกค้าได้อย่างปลอดภัย

 

แต่ที่สำคัญที่สุดคือ การเก็บข้อมูลลูกค้าและนำมาวิเคราะห์ต่อยอด ว่าลูกค้าซื้อรสชาติไหน ไม่ชอบอะไร ซื้อจากไหน เวลาอะไร ทำให้การทำแคมเปญหลังๆ เป็น talk of the town ประสบความสำเร็จแทบจะทุกแคมเปญเลยครับ

 

========

 

สิ่งที่ #ลงทุนนอกโลก โดยถามอีก กับอิก ตกผลึกจากเรื่องนี้

 

1. การทำธุรกิจยุคนี้มีการแข่งขันที่ดุเดือดมาก ๆ ทำให้หลายธุรกิจ (ที่เคยประสบความสำเร็จมาอย่างยาวนานก็) อาจจะเพลี่ยงพล้ำได้

 

2. ”การยอมรับข้อผิดพลาด” และเปิดใจยอมรับว่ามีปัญหาเกิดขึ้น ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะจะทำให้เรามองหาว่าอะไรคือต้นตอของความล้มเหลว และจะนำไปสู่การแก้ไขที่ถูกทางได้

 

3.ความสำเร็จไม่จำเป็นต้องเลียนแบบใคร ขอแค่มีความมุ่งมั่น และทำตามเป้าหมายอย่างไม่หยุดนิ่ง ก็มีโอกาสประสบความสำเร็จได้เช่นกัน

 

========

 

เริ่มต้นวันนี้ดีที่สุด ขอให้ทุกท่านโชคดีและมีอิสรภาพในการใช้ชีวิต

 

อิสรภาพชีวิต !! อยู่ไหนก็ไม่พลาด อย่าลืมกดติดตามนะครับ หรือเพิ่มช่องทางการสื่อสารได้เลย

 

ส่งข่าวสารถึงมือผ่าน Line@: http://bit.ly/TAM-EIG_LINE
คลิกเลย

TAM-EIG

TAM-EIG

1926

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save
error: Content is protected !!