ด่วน! ปู่บัฟเฟตต์และปู่มังเกอร์มองยังไงในภาวะตลาดแบบนี้ (ตอนที่ 1)

638

#ลงทุนนอกโลก โดยถามอีกกับอิก

 

สด ๆ ร้อน ๆ เลยครับ ชวนมาอ่านวิธีคิดและมุมมองของแก ที่ทำให้เราฉุกคิดได้ครับ

 

=======

 

1. “ช่วงที่ตาดหุ้นตกอย่างหนัก (วันนี้ Dow Jones Futures มีโอกาสร่วงไป 800 จุด) หลายคนอาจจะเริ่มกังวลจากไวรัสโคโรนา” แต่ปู่บัฟเฟตต์มองว่าเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเรามาก

 

2. แม้ว่าเราไม่ใช่ผู้ที่ซื้อหุ้นตลอดเวลา แต่เวลาที่ตลาดหุ้นร่วงหนัก เราก็ต้องการซื้อหุ้นในราคาที่ถูกลง” ปู่พยายามจะชี้ให้เห็นว่าเราไม่ได้ซื้อหุ้น แต่เราซื้อธุรกิจต่างหาก

 

3. แกมองว่า พื้นฐานและมุมมองความน่าสนใจของธุรกิจอเมริกัน ไม่ได้เปลี่ยนไปภายในเวลา 24 ชั่วโมงหรอกน่า

 

4. แกยกตัวอย่างว่า แกถือหุ้น coke เป็นเวลานานกว่า 40 ปี และ American Express แกก็ถือหุ้นมานานกว่า 20 ปี (ชี้ให้เห็นว่าหลายครั้งมันเป็นเพียงผลกระทบระยะสั้นในกระดานหุ้นเท่านั้น ไม่มีผลต่อธุรกิจในระยะยาว)

 

5. ปู่บัฟเฟตต์ให้ข้อคิดว่า ไม่มีใครรู้หรอกครับว่า ตลาดหุ้นจะเป็นอย่างไร

 

6. แต่การที่คุณจะซื้อหุ้นใดก็ตาม คุณต้องสามารถเขียนให้ได้ว่าหุ้นตัวนี้ ทำอะไร และมีความน่าสนใจอย่างไรภายใน 1 หน้ากระดาษ

 

“คุณต้องรู้เหตุผลว่าคุณซื้อหุ้นตัวนี้เพราะอะไร และต้องเขียนเหตุผลให้ได้ภายในหนึ่งหน้ากระดาษครับ”

 

7. อย่าซื้อ หรือขายธุรกิจ เพียงเพราะคุณดูหน้าหนังสือพิมพ์

 

“คุณไม่สามารถคาดการณ์ตลาดหุ้นจากการอ่านหนังสือพิมพ์รายวัน”

 

8. พอตลาดหุ้น ให้เราสามารถซื้อ หรือ ขาย ได้แทบจะทุกวินาที ก็เลยทำให้นักลงทุนมองว่า มีความแตกต่างจากการลงทุนในธุรกิจ (ที่ซื้อแล้ว ต้องถือยาว) แต่จริงๆแล้วควรจะมองให้เหมือนกัน

 

9. ถ้าคุณดูสถานการณ์ปัจจุบันจะเห็นว่า การลงทุนในหุ้นดีกว่าการลงทุนในตลาดพันธบัตร ในระยะเวลา 30 ปี

 

10. ถ้าตามประสบการณ์ของปู่จะเห็นว่า ปู่ซื้อหุ้นทุกปีนับตั้งแต่อายุ 11 ขวบครับ

 

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในตลาดหุ้น ผมก็ซื้อหุ้นในทุกๆปี แต่ไม่ใช่ทุกวัน” “มีเพียงแค่ไม่กี่ครั้งที่ ผมคิดว่าตลาดหุ้นแพงเกินไป แต่ก็มีเพียงไม่กี่ปีเท่านั้นแหละ”

 

11. ปู่ยังมั่นใจว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแรงอยู่ครับ แต่ก็อ่อนแรงลงเมื่อเทียบกับ 6 เดือนที่ผ่านมา และมองว่าผลกระทบจากโคโรนาไวรัส ก็กระทบกับธุรกิจเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น

 

12. ปู่ยอมรับว่าโคโรนาไวรัส กระทบต่อหุ้น และกระทบต่อธุรกิจที่แกลงทุนแน่ๆ แต่จริง ๆ ก็มีหลายปัจจัยที่กระทบ “แต่คำถามที่สำคัญคือ ธุรกิจจะเป็นอย่างไร ในอีก 5-10 ปี” ปู่มองว่า ยังไงเสียธุรกิจก็ต้องมีขึ้นและมีลง

 

แกหมายถึง Apple กับ Dairy Queen ที่น่าจะเจอแรงกระแทกพอสมควร แต่มองว่าเป็นเพียงผลกระทบระยะสั้นครับ

 

========

 

เริ่มต้นวันนี้ดีที่สุด ขอให้ทุกท่านโชคดีและมีอิสรภาพในการใช้ชีวิต

 

อิสรภาพชีวิต !! อยู่ไหนก็ไม่พลาด อย่าลืมกดติดตามนะครับ หรือเพิ่มช่องทางการสื่อสารได้เลย

ส่งข่าวสารถึงมือผ่าน Line@: http://bit.ly/TAM-EIG_LINE
คลิกเลย

Picture of TAM-EIG

TAM-EIG

638

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save
error: Content is protected !!