4 สุดยอด CEO สถาบันการเงินระดับโลกมองโอกาสลงทุนช่วงนี้ยังไง?

732

#ลงทุนนอกโลก โดยถามอีก กับอิก

 

สรุปสั้น ๆ แม้ว่าจะมองว่าจะอยู่ช่วงปลายวัฏจักร แต่ส่วนใหญ่ยังมองว่าไปต่อได้ครับ หลัก ๆ ก็มาจากการที่ธนาคารกลางและรัฐบาลทั่วโลกจัดหนักจัดเต็ม ผ่อนคลายเต็มที่ครับ

 

=======

 

เริ่มจากความเห็นของ CEO มาดเท่จาก J.P.Morgan Chase ธนาคารที่มีสินทรัพย์มากที่สุดในสหรัฐ อย่างคุณ Jamie Dimon ก่อนครับ

 

1. เหตุผลเดียวที่อาจจะทำให้เกิดภาวะฟองสบู่ ทางการเงินคือหนี้รัฐบาลเท่านั้น (และตอนนี้มองว่ากำลังเกิดภาวะฟองสบู่ ในสินทรัพย์ประเภทนี้แล้ว)

 

2. แต่สิ่งที่เราเห็นตอนนี้คืออัตราดอกเบี้ยต่ำทั่วโลก นี่แหละครับที่ทำให้ตลาดลงทุนไม่ได้ตกอกตกใจมากมายนัก ทั้ง ๆ ที่หนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

 

3. ในขณะเดียวกันภาวะดอกเบี้ยติดลบในยุโรป คือสิ่งที่ทำให้นักลงทุนอาจจะมองข้ามความเสี่ยงของภาระหนี้สินไปครับ

 

4. “หลายคนอาจจะมองว่า ธนาคารกลางทั่วโลกสามารถทำอะไรก็ได้ ตามที่พวกเค้าต้องการ” เฮีย Jamie Dimon ค้านความคิดนี้ครับ เพราะอัตราเงินเฟ้อที่อาจจะเพิ่มขึ้นในอนาคต อาจจะส่งผลลบได้อย่างไม่น่าเชื่อ

 

5. เหตุผลคืออะไรครับ? เหตุผลคือ ถ้าอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ก็จะเป็นการบังคับให้ธนาคารกลางทั่วโลกจำเป็นต้องเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยลดความร้อนแรงของเศรษฐกิจ

 

และตรงนี้แหละครับที่จะทำให้การกู้ยืมของรัฐบาลมีต้นทุนที่สูงขึ้น และราคาพันธบัตรก็จะสูงขึ้น เพราะผลตอบแทนต่ำลง

 

6. “ส่วนตัวผมจะไม่ซื้อพันธบัตรที่ให้ผลตอบแทนติดลบเด็ดขาด ถ้าไม่ถูกบังคับ” ซึ่งเฮียแกมองว่า ในอดีตถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ส่วนใหญ่มักจะจบไม่สวย

 

7. แต่มองว่า การที่สินทรัพย์หลายประเภทมีราคาที่สูงอยู่ตอนนี้ยังมีความสมเหตุสมผลในช่วงที่เศรษฐกิจยังเติบโต

 

8. โดยมองว่าการบริโภคของชาวอเมริกันยังดีและมองว่า การลงทุนของภาคเอกชนมีโอกาสเพิ่มสูงขึ้นในปี 2020 นี้

 

=======

 

David Solomon ผู้นำสถาบันการเงินระดับโลกอย่าง Goldman Sachs ให้ความเห็นน่าสนใจเหมือนกันครับ

 

1. ตอนนี้ภาพใหญ่เศรษฐกิจสหรัฐ มีโอกาสเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่น้อยมาก ๆ ครับ และมองว่าตอนนี้ก็ไม่ได้คล้ายกับสถานการณ์ในปี 2008 เลยครับ

 

เพราะตัวเลขการบริโภคของประชาชนยังเติบโตดี ในขณะที่ความกังวลสงครามการค้าเริ่มลดลง

 

2. แต่อาจจะปัจจัยที่เข้ามากระทบ กวนใจบ้าง และอาจจะทำให้การเติบโตน้อยลงบ้าง เช่น การขึ้นกำแพงภาษีระห่ว่างประเทศ

 

3. ภาวะแบบนี้เหมาะมากสำหรับบริษัทที่ต้องการอยากจะเข้าตลาดฯและมาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์

 

4. แต่ต้องยอมรับว่าตอนนี้เราอยู่ในช่วงปลายวัฏจักรของทั้งเศรษฐกิจและการลงทุน

 

=======

 

หันมาดูความเห็นของคุณ Jes Staley สุดยอด CEO ของค่าย Barclays

 

เค้าเองก็มองบวกครับ เค้ามองว่ารัฐบาลหลายประเทศมีโอกาสที่จะใช้มาตรการกระตุ้นด้านการคลังในปีนี้เพิ่มเติม ทำให้ภาพรวมการลงทุนดูดีกว่าปีที่แล้วครับ

 

1. ข้อสังเกตของคุณ Jes Staley คือ ตอนนี้คุณคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรปกำลังเรียกร้องให้เยอรมนี และเนเธอร์แลนด์ ให้ร่วมกันใช้โปรแกรมการใช้จ่ายนโยบายการคลัง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในยุโรป

 

2. “สหรัฐเองก็เช่นกัน ลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีที่แล้ว ทำให้ธนาคารกลางทั่วโลกตอนนี้ก็หันมาใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายคล้ายๆกัน เช่น ธนาคารกลางอังกฤษ” นี่แหละครับคือเหตุผลที่เศรษฐกิจโลกกำลังผ่านพ้นจุดต่ำสุด

 

3. แต่ก็เตือนว่าประสิทธิภาพของนโยบายการเงินอาจจะน้อยลง เพราะหลายประเทศเริ่มมีนโยบายเกือบจะติดลบอยู่แล้ว (บางประเทศก็ลบไปแล้ว)

 

และเหตุผลที่อาจจะพึ่งพิงนโยบายการเงินได้น้อยลง เพราะมีความไม่แน่นอนสูงมาก (ปีที่แล้วยังมีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยกันอยู่เลย แต่มาในปีนี้กลับข้าง กลายเป็นแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง)

 

4. นี่เลยเป็นเหตุผลว่าทำไม คุณ Jes Staley ยังคาดการณ์ว่ารัฐบาลอังกฤษจะใช้มาตรการด้านการคลัง เร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เสริมนโยบายด้านการเงิน

 

5. แต่ข้อแนะนำอย่างนึงคือ อยากให้ธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางประเทศอื่นๆเริ่มที่จะลดการใช้นโยบายแบบติดลบได้แล้ว เพราะช่วงที่ผ่านมากดดันอัตราทำกำไรของกลุ่มธนาคารพาณิชย์อย่างมาก

 

6. แต่ปีนี้อาจจะเจอความไม่แน่นอนด้านการเมืองระดับโลก

 

7. มีความเสี่ยงบ้างในแง่ที่ valuation ของหุ้นหลาย ๆ ตัวมีราคาแพงเช่น กลุ่มเทคโนโลยี

 

=======

 

ส่วนความเห็นของ CEO ของ ING คุณ Ralph Hamers ก็ยังมองบวกครับ

 

1. เบื้องต้นเชื่อว่า ลาการ์ดจะช่วยโน้มน้าวให้รัฐบาลยุโรปใช้นโยบายด้านการคลังได้มากขึ้น

 

2. ถามว่าทำไมถึงเป็นสิ่งที่จำเป็น? คุณ Hamers บอกว่า ตอนนี้จะเห็นว่านโยบายการเงินแบบผ่อนคลายแทบจะไม่มีผลอะไรเท่าไหร่, หรือในมุมของการเพิ่มความมั่นใจของผู้บริโภคเองก็ไม่มากนัก, และไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้

 

3. นั่นเลยเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงเชื่อว่านักการเมืองจะเริ่มหันไปใช้นโยบายด้านการคลังและจะเร่งลงทุนครั้งใหญ่ขึ้น

 

4. ทั้งนี้การลงทุนที่จะมีเม็ดเงินเทงบมาเยอะแยะมากมายแน่นอน คือ นโยบายด้านโครงสร้างพื้นฐาน และนโยบายด้านพลังงานสีเขียว

 

ซึ่งจะทำให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ และทำให้เกิดการลงทุนครั้งใหญ่ในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน

 

========

 

เริ่มต้นวันนี้ดีที่สุด ขอให้ทุกท่านโชคดีและมีอิสรภาพในการใช้ชีวิต

 

อิสรภาพชีวิต !! อยู่ไหนก็ไม่พลาด อย่าลืมกดติดตามนะครับ หรือเพิ่มช่องทางการสื่อสารได้เลย

 

ส่งข่าวสารถึงมือผ่าน Line@: http://bit.ly/TAM-EIG_LINE

TAM-EIG

TAM-EIG

732

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save
error: Content is protected !!