ด่วน! ปู่บัฟเฟตต์ให้ข้อคิดอะไรในจดหมายถึงผู้ถือหุ้น (ตอนที่ 1)

710

#ลงทุนนอกโลก โดยถามอีกกับอิก

 

สดๆร้อน ๆ ไม่กี่นาทีครับ เมื่อปู่บัฟเฟตต์เขียนจดหมายถึงผู้ถือหุ้น ส่วนตัวผมอ่านแล้วมันส์มาก ทำให้พวกเรานักลงทุนรายย่อยได้ข้อคิดดี ๆ มากมาย ลุยอ่านกันเลยครับ

 

========

 

เริ่มจากดูผลประกอบการของ Berkshire Hathaway

 

1. มีรายได้สูงถึง 8.14 หมื่นล้านเหรียญ และมีกำไรมากถึง 2.9 หมื่นล้านเหรียญ

 

2. เนื่องจากมาตรฐานบัญชีใหม่ ทำให้ปู่ต้องรายงานและบันทึกกำไร และขาดทุนของหุ้นที่ลงทุนอยู่ในงบด้วย (ซึ่งปู่ไม่เห็นด้วยเลยครับ)

 

3. สิ่งที่ปู่เน้นย้ำว่าอยากให้ดู คือ ตัวเลข กำไรจากการดำเนินงานครับ (เพราะจะได้ตัดผลกระทบจากการขึ้นๆลงๆ ของราคาหุ้นบนกระดานครับ)

4. ปู่ซื้อหุ้นคืน มูลค่าสูงถึง 2.2 พันล้านเหรียญ หรือ 6.6 หมื่นล้านบาท เป็นการซื้อหุ้นคืนมากที่สุดภายในไตรมาสเดียว ในประวัติศาสตร์ของ Berkshire Hathaway

5. ตอนนี้ปู่มีเงินสดในมือ สูงถึง 1.28 แสนล้านเหรียญ

========

 

ปู่ให้ข้อคิดของการใช้พลังของ Retained Earnings กำไรสะสม

 

1. ปู่อ้างถึงหนังสือ Common Stocks as Long term Investments ของ คุณ Edgar Lawrence Smith นักเศรษฐศาสตร์และที่ปรึกษาการเงินที่โด่งดังในช่วงปี 1924

 

2. ก่อนหน้านี้มีคุณ Edgar มีความเชื่อว่า หุ้นจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าพันธบัตรในช่วงที่อยู่ในภาวะเงินเฟ้อ ส่วนพันธบัตรจะให้ผลตอบแทนที่ดีในช่วงเงินฝืด (ภายหลังก็ออกมายอมรับว่าเป็น ข้อผิดพลาด)

 

3. จนได้ข้อสรุปในภายหลังว่า “ถ้าเป็นช่วงเวลาที่ดี บริษัทไหนก็ตามที่เก็บเงิน เก็บกำไรเอาไว้”

 

“แล้วแทนที่จะจ่ายเงินปันผล แต่เลือกที่จะใส่เงินเข้ามาลงทุนในธุรกิจของตัวเอง” ทำให้เมื่อเวลาผ่านไปก็จะให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น จากพลังดอกเบี้ยทบต้น และเป็นการสร้างคุณค่าให้กับบริษัทมากกว่าการจ่ายเงินปันผลคืนให้ผู้ถือหุ้น

 

(อาจจะเป็นเหตุผลว่าทำไม ปู่ถึงไม่จ่ายเงินปันผลของหุ้น Berkshire เลย)

 

4.ปู่บอกว่า ตัวอย่างที่เห็นชัดๆ คือ อภิมหาเศรษฐีอย่าง Carnagie, Rockefeller และ Ford ที่เอาเงิน และกำไร ไปลงทุนต่อเนื่อง ทำให้บริษัทเติบโต และสร้างกำไรที่เพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยยสำคัญ

 

5. ไม่ใช่แค่นี้ครับ ปุ่ยังบอกว่า จริง ๆ แล้วมีนักลงทุนจำนวนนึงที่ใช้เทคนิคนี้ แล้วก็ร่ำรวยอย่างมาก (ไม่เอาเงินปันผลไปใช้ แต่เอาเงินหรือกำไรที่ได้ ไปลงทุนต่อเนื่อง)

 

6. และช่วงเวลาก่อนยุคของ Edgar (1924) เมื่อนักลงทุน เข้าไปลงทุนในกิจการ ก็จะมองว่าเป็นการพนัน ระยะสั้น กว่าตลาดจะขึ้น หรือ ลง

 

“นักลงทุนสมัยนั้นมองว่า การลงทุนในหุ้นเป็นเพียงแค่การเก็งกำไรเท่านั้น” คนส่วนใหญ่ช่วงนั้นจะชื่นชอบการลงทุนในพันธบัตรมากกว่าการลงทุนในหุ้น

 

7. แต่สมัยนี้ นักลงทุนจำนวนมากเริ่มเข้าใจในพลังของ Retained Earnings กำไรสะสมมากขึ้น และเข้าใจหลักการดอกเบี้ยทบต้นมากขึ้นครับ

 

========

 

เริ่มต้นวันนี้ดีที่สุด ขอให้ทุกท่านโชคดีและมีอิสรภาพในการใช้ชีวิต

 

อิสรภาพชีวิต !! อยู่ไหนก็ไม่พลาด อย่าลืมกดติดตามนะครับ หรือเพิ่มช่องทางการสื่อสารได้เลย

 

ส่งข่าวสารถึงมือผ่าน Line@: http://bit.ly/TAM-EIG_LINE
คลิกเลย

Picture of TAM-EIG

TAM-EIG

710

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save
error: Content is protected !!