บทความ

#ข่าวเช้าตรู่ส่งถึงมือคุณ! โดยเพจ “ถามอีก กับอิก”

1079

1. Alphabet ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 4 สูงถึง 4.608 หมื่นล้านเหรียญ

แต่ที่ surprise นักลงทุนเล็ก ๆ คือ อยู่ ๆ ก็ประกาศรายได้ของ YouTube เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เลยครับ

ทั้งนี้ โฆษณาของ YouTube ทำรายได้สูงถึง 1.515 หมื่นล้านเหรียญ ในปี 2019 แต่ถ้าเอาเฉพาะไตรมาสนี้ก็ซัดไป 4.72 พันล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นมากถึง 30%

นี่ยังไม่นับรายได้จากการสมัครสมาชิก youtube TV ด้วยนะครับ

“ปัจจุบัน google มีจำนวนสมาชิก youtube TV ที่ยอมจ่ายตังมากถึง 2 ล้านคน” คุณซุนดา พิชัย CEO คนเก่งของ Alphabet บอกว่าสามารถทำรายได้รวมกับส่วนอื่นได้มากกว่า 3 พันล้านเหรียญแล้วตอนนี้

ในขณะที่ธุรกิจ cloud นี่ก็สวยงามมาก ๆ ครับ สร้างรายได้ไปมากถึง 8.92 พันล้านเหรียญทั้งปีที่ผ่านมา โดยถ้านับเฉพาะไตรมาสที่ 4 ก็ซัดไป 2.61 พันล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 52% โหดมากครับ

ส่วนธุรกิจที่เรียกว่า other revenue ที่ครอบคลุมสินค้า hardware ต่างๆก็ทำรายได้ไป 5.26 พันล้านเหรียญ

โดยตอนนี้จุดที่น่าสนใจคือ google กำลังใช้กลยุทธ์ “อยู่ในทุก ๆ ที่ ที่ลูกค้าอยู่” แต่ผู้บริหารยังบอกว่า ยังห่างไกลความสำเร็จอีกพอควร ต้องใช้เวลา ซึ่งการเข้าซื้อ Fitbit ก็น่าจะเป็นอีกกลยุทธที่เติมเต็มความฝันนี้ได้

อ่อ ลืม รายได้อีกประเภทครับ คือ other bets ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนในสินค้าประเภทอนาคตมาก ๆ ยังไม่ค่อยทำกำไร เช่น รถไร้คนขับ ปีที่ผ่านมาก็ทำรายได้ไป 172 ล้านเหรียญ เพิ่มชึ้น 11%

“ตอนนี้หลายธุรกิจใน other bets เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง และอยู่ในขั้นที่กำลังทำงานร่วมกับพันธมิตรอีกหลายโครงการด้วยกัน”

ส่วนอีกตัวเลขที่น่าสนใจที่ คุณซุนดา พิชัย ให้ความสำคัญ คือการทำวิจัยครับ ล่าสุดมีพนักงานในแผนกนี้มากถึง 4,903 คน และเร่งลงทุนวิจัยมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไม่ได้เปิดเผยตัวเลขครับ

========

2. ค้าปลีกชื่อดัง Forever 21 บรรลุข้อตกลงขายธุรกิจให้กับห้างสรรพสินค้าสหรัฐ

หลังจากที่ดราม่ากันอยู่พักนึง ล่าสุดค้าปลีกแฟชั่นชื่อดัง อย่าง Forever 21 ก็สามารถตกลงขายกิจการ ด้วยมูลค่า 81 ล้านเหรียญ หรือ 2.4 พันล้านบาท หลังจากที่ต้องยื่นขอล้มละลาย เป็นข่าวใหญ่โตไปเมื่อปีที่แล้ว

ขายให้ใคร? ขายให้กับ กลุ่มนักลงทุนและกลุ่มค้าปลีก เช่น Simon property, brookfield property partners และ Authentic brands ครับ

เหตุผลที Forever 21 จำเป็นต้องขายเพราะก่อนหน้านี้ดำเนินธุรกิจผิดพลาด เร่งขยายสาขาเร็วจนเกินไป และไม่สามารถปรับตัวสู้กับค้าปลีกออนไลน์ได้ทัน

ที่สุดก็ต้องขอยอมแพ้และปิดสาขาไปแล้วกว่า 100 แห่งแต่ก็ยังมีสาขาทั่วโลกกว่า 800 สาขา

ปิดตำนานค้าปลีกยักษ์ใหญ่ไปอีกรายครับ

========

3. เศรษฐกิจฮ่องกงหดตัว ต่อเนื่องจากทั้งการประท้วงภายในและความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงหนัก

ตัวเลข GDP ของฮ่องกงร่วงลง 2.9% ในไตรมาส 4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันก่อน ในขณะที่ไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา GDP ดิ่งลง 2.8% นั่นหมายความว่าเศรษฐกิจฮ่องกงทั้งปีหดตัว 1.2%

“ถือว่าเป็นตัวเลขที่ลดลงเป็นครั้งแรก ในรอบ 10 ปี” ส่วนตัวเลขการค้าขายก็แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1997

เหตุผลหลัก ๆ คือได้รับผลกระทบจากความไม่สงบและความวุ่นวายทางการเมืองจากการชุมนุมประท้วงของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลฮ่องกง ซึ่งกำลังส่งผลกระทบกับธุรกิจท่องเที่ยว และความเชื่อมั่นของผู้บริโภค

นี่ยังไม่นับปัญหาที่เกิดขึ้นจากโคโรนาไวรัส สายพันธุ์ใหม่ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลต่อหลายธุรกิจทั้งท่องเที่ยว, ค้าปลีก เป็นต้น

========

4.หุ้นที่บวกมากที่สุดในต้นปี 2020 นี้

โดยถามอีก กับอิก

https://www.facebook.com/309527089143639/posts/2708188135944177/?d=n

========

5. มาอัพเดทตลาดกันหน่อยครับ

สหรัฐ บวกเล็กน้อย 0.51%

เยอรมนี บวก 0.49%

ทองคำ 1583 เหรียญ บวกเล็กน้อย

น้ำมัน 49.99 เหรียญ ลบหนัก

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก Fox, CNN, Yahoo Finance