
การบริหารภาษี…อาจฟังดูไม่เหมือนอาหารจานโปรด แต่ถ้ารู้วิธี “ปรุงให้ถูกสูตร” เราสามารถเปลี่ยนภาษีที่ต้องจ่ายให้กลายเป็นเงินออมที่มีโอกาสงอกงามได้ วันนี้ผมชวนเพื่อนๆมาลอง “เมนูลงทุนลดหย่อนภาษี” ที่ช่วยทั้งประหยัดภาษี และวางแผนความมั่งคั่งในระยะยาวกันครับ
#SavorTheTaxSavingFunds #SCBWealth #TAMEIG

สมมติเงินเดือน 40,000 บาทต่อเดือน รายได้ต่อปี 480,000 บาท หักค่าใช้จ่าย ค่าลดหย่อนส่วนตัว และประกันสังคมแล้ว เหลือเงินได้สุทธิประมาณ 311,000 บาท อยู่ในอัตราภาษีสูงสุดที่ 10% ภาษีที่ต้องจ่ายราว ๆ 8,600 บาท
แต่ถ้าใช้สิทธิลดหย่อนเพิ่มอีก 161,000 บาท ด้วยการลงทุนใน Thai ESG / RMF ได้ อย่างละไม่เกิน 144,000 บาท จะถือเป็นการบริหารภาษีโดยใช้สิทธิลดหย่อนให้เต็มสิทธิ ทำให้ไม่มีภาษีที่ต้องเสีย
หากต้องการใช้สิทธิลดหย่อนให้เต็มสิทธิด้วยการลงทุนในกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษี สามารถลงทุนได้อีก 161,000 บาท (โดยลงทุนใน Thai ESG / RMF ได้ อย่างละไม่เกิน144,000 บาท) ก็จะทำให้ไม่มีภาษีที่ต้องเสียและมีเงินออมในระยะยาวเพิ่มขึ้นอีกด้วย

แต่ถ้ารายได้สูงขึ้นเป็น 75,000 บาทต่อเดือน หรือปีละ 900,000 บาท เมื่อหักค่าใช้จ่าย ค่าลดหย่อนส่วนตัว และประกันสังคมแล้ว เหลือเงินได้สุทธิประมาณ 731,000 บาท อยู่ในอัตราภาษีสูงสุดที่ 15% ภาษีที่ต้องจ่ายจะอยู่ราว ๆ 62,000 บาท แต่ถ้าใช้สิทธิลดหย่อนเพิ่มเติม เช่น กองทุน Thai ESG/RMF 540,000 บาท [ลงทุนใน Thai ESG / RMF ได้ อย่างละไม่เกิน 270,000 บาท]
และประกันชีวิตและสุขภาพ/ประกันบำนาญ 41,000 บาท ซึ่งเป็นการใช้สิทธิลดหย่อนให้เต็มสิทธิ ก็จะไม่มีภาษีที่ต้องเสีย แถมยังได้ความคุ้มครอง กับ เงินเพื่อวัยเกษียณในระยะยาวอีกด้วยครับ
อย่างไรก็ตามการลงทุนมีความเสี่ยงนะครับ เราควรเลือกพิจารณาให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์และความเสี่ยงที่ ยอมรับได้

การลงทุนและบริหารภาษี…ก็เหมือนเลือกเมนูอาหาร ไม่มีสูตรตายตัว เพราะแต่ละคนมี “รสชาติชีวิต” ต่างกัน SCB WEALTH ออกแบบเมนูธีมการลงทุนพร้อมบริหารภาษี 3 แบบ ให้เพื่อนๆเลือกได้ตามสไตล์ The Signature Core – เน้นมั่นคง อุ่นใจ เหมาะกับคนใกล้เกษียณ (ThaiESG 20% + RMF 80%)
The Perfect Blend – สมดุลระหว่างความมั่นคงและโอกาส (ThaiESG 50% + RMF 50%)
The Growth Booster – สายลุย ชอบความท้าทาย (ThaiESG 80% + RMF 20%)
คุณเป็นเมนูไหนใน 3 แบบนี้?
[ลงทุนเป็นพอร์ต ดีกว่าลงเดี่ยวๆอย่างไร]
ผมเปรียบเทียบเหมือนทำอาหาร ถ้าใส่แค่เกลือ มันก็เค็มอย่างเดียว แต่ถ้ามีทั้งเกลือ น้ำตาล และเครื่องเทศพอดี…ถึงจะกลมกล่อม 🍲
การลงทุนก็เหมือนกัน การ “จัดพอร์ต” ช่วยกระจายความเสี่ยง เพิ่มโอกาสเติบโต และบาลานซ์ผลตอบแทน ไม่ต้องลุ้นกองเดียวให้ถูกจังหวะ แต่ใช้หลายกองช่วยกันทำงาน เพื่อให้พอร์ตโดยรวม “มั่นคงและโตต่อเนื่อง
เพราะ “พอร์ตที่ดี” เปรียบเทียบเหมือนอาหารจานเด็ด — ต้องมีส่วนผสมที่ลงตัว ไม่มากไม่น้อยเกินไป

ถ้าปีนี้เพื่อนๆ ยังไม่รู้จะเริ่มจากกองไหนดี แนะนำ 2 กองทุนตัวท็อปขายดีจาก SCB ที่คนเลือกเยอะที่สุดครับ
1. SCBRMS&P500 – กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยูเอส เพื่อการเลี้ยงชีพ เป็นกอง RMF ที่เน้นลงทุนหุ้นใหญ่สหรัฐฯ ตามดัชนี S&P500
2. SCBTB (ThaiESGA) – กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ตราสารหนี้ไทยยั่งยืน ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน เป็นกองทุนตราสารหนี้คุณภาพดีจากภาครัฐและเอกชน
ทั้งคู่ช่วยให้เพื่อนๆได้ทั้งลดหย่อนภาษี และวางแผนพอร์ตอนาคตในครั้งเดียว

ฟังมาถึงตรงนี้แล้วถ้าเพื่อนๆสนใจสามารถลงทุนได้ทั้งผ่านสาขา หรือผ่านแอป SCB EASY ได้ง่ายสะดวกมากเลยครับ
ไม่ต้องมีที่ปรึกษาส่วนตัวก็เริ่มได้ เพียงเปิดแอป SCB EASY จากนั้นเราก็ เลือกกองทุน RMF / ThaiESG และกำหนดวงเงินที่อยากลงทุน เงื่อนไขเป็นไปตามที่กองทุนกำหนด แค่นี้เพื่อนๆก็สามารถเลือกกองทุนลดหย่อนภาษีตามสไตล์ตัวเอง ดูพอร์ตได้แบบเรียลไทม์ และปรับสัดส่วนได้ตลอดเวลา
เท่ากับว่าการลงทุนที่ดี เริ่มได้จากปลายนิ้วของเพื่อนๆ เองครับ

ข่าวดีครับเพื่อนๆ
พิเศษ ! เมื่อมียอดลงทุนสะสมสุทธิครบทุก 50,000 บาท รับ Fund back SCBSFF 100 บาท สูงสุด 1,600 บาท* เฉพาะในกองทุน RMF/Thai ESG ที่ร่วมรายการตั้งแต่ 3 พ.ย. 68 – 30 ธ.ค. 68
กองทุน SCBRM1, SCBRM2, SCBRMMONEY, SCBTB(ThaiESGA), ThaiESGE ไม่เข้าร่วมรายการส่งเสริมการขาย
ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. – 30 ธ.ค. 68 💜🍰





