หายนะ 3 ด้านวงการคริปโตจากการล้มละลายของ FTX

1540

การล่มสลายของ FTX ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็น crypto exchange มูลค่า 3.2 หมื่นล้านเหรียญ ⁣⁣

ทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุนคริปโตฯ⁣⁣
⁣⁣
ตลาดกำลังประเมินขอบเขตความเสียหายที่เกิดขึ้นและวิธีการที่จะเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ⁣⁣
⁣⁣
Sam Bankman-Fried ก้าวลงจากตำแหน่งประธาน FTX เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2565 และถูกจับกุมในบาฮามาสเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเขาถูกรัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งข้อหา ฉ้อโกงทางโทรศัพท์ ฉ้อโกงหลักทรัพย์ และข้อหาฟอกเงิน ⁣⁣
FTX ถูกกล่าวหาว่า ใช้บัญชีลูกค้าทำการซื้อขายที่มีความเสี่ยงผ่านบริษัทในเครือ Alameda Research⁣⁣
⁣⁣
“ถือเป็นเรื่องน่าผิดหวังและเป็นเรื่องที่ร้ายแรงสำหรับนักลงทุน” Louise Abbott จากสำนักงานกฎหมาย Keystone Law ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการกู้คืนสินทรัพย์คริปโตฯและการฟอกเงินกล่าว ⁣⁣
⁣⁣
FTX สามารถพลิกโฉมอุตสาหกรรมคริปโตฯในอนาคตข้างหน้าได้ ภายใต้ 3 แนวทาง

⁣⁣
1.ด้านกฎระเบียบ⁣⁣
⁣⁣
ประการแรก หายนะที่เกิดขึ้นกระตุ้นหน่วยงานกำกับดูแล ⁣⁣
⁣⁣
อุตสาหกรรมคริปโตฯยังไม่ได้รับการควบคุมมากนักที่ผ่านมา หมายความว่า นักลงทุนจะไม่ได้รับการคุ้มครองเช่นเดียวกับการวางเงินไว้กับธนาคารหรือนายหน้าที่ได้รับอนุญาต ⁣⁣
⁣⁣
โดยรัฐบาลทั้งในสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และสหราชอาณาจักรกำลังดำเนินการจัดการเรื่องนี้ ⁣⁣
ตลาดคริปโตฯ ในสหภาพยุโรป ถือว่ามีกรอบการกำกับดูแลที่ครอบคลุมมากที่สุดในปัจจุบัน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ Exchange รับผิดชอบนักลงทุนหากการลงทุนมีความเสียหายเกิดขึ้น ⁣⁣
⁣⁣
แต่ MICA ยังไม่มีกำหนดเริ่มกรอบกำกับนี้ Abbott กล่าววว่า สิ่งสำคัญคือหน่วยการกำกับดูแลต้องดำเนินการเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว⁣⁣
⁣⁣
“นักลงทุนต้องเห็นว่ามีการกำกับดูแลเกิดขึ้นเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นว่าจะได้รับความคุ้มครอง”⁣⁣
⁣⁣
Evgeny Gaevoy ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Wintermute กลาวว่า ⁣⁣
⁣⁣
“ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในปีนี้ ทั้ง Celsius, Three Arrows, FTX ได้รับผลกระทบที่เลวร้ายจากทั้งสองโลก จากการที่ไม่ decentralized อย่างสมบูรณ์ และไม่ centralized อย่างถูกต้อง”⁣⁣


Kevin de Patoul CEO ของ Keyrock บทเรียนที่ใหญ่ที่สุดจากการล่มสลายของ FTX คือ

“คุณไม่สามารถรวมศูนย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และไม่สามารถขาดการกำกับดูแลไปได้”⁣⁣
“เรากำลังพัฒนาไปสู่โลกที่มีทั้งการรวมศูนย์และการกระจายอำนาจ เมื่อมีการรวมศูนย์ ก็ต้องมีการดูแลและสมดุลของอำนาจที่เหมาะสม”⁣⁣

 

2. Consolidation⁣⁣
บริษัทและโครงการใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมายหลังช่วง crypto winter ปี 2018 เช่นเดียวกับ FTX ⁣⁣
⁣⁣
แต่คาดว่าบริษัทและเหรียญใหม่ ๆ จะเกิดขึ้นน้อยลงหลังจากนี้ ⁣⁣
⁣⁣
BlockFi ซึ่งเคยได้รับความช่วยเหลือทางการเงินจาก FTX ก็ได้เข้าสู่ภาวะล้มละลายเช่นเดียวกันจากผลกระทบจาก FTX ตอนนี้ความสนใจกำลังหันไปหาบริษัทอื่น ๆ ที่ใกล้เคียงกันอย่าง Gemini และ Genesis⁣⁣
⁣⁣
“ FTX และ Alameda นำไปสู่ความท้าทายของอุตสาหกรรมคริปโตฯ” Peter Smith CEO ของ Blockchain.com กล่าว ⁣⁣
⁣⁣
Marieke Flament CEO ของ Near กล่าวว่า “บริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ของ FTX มากนัก แม้การล้มละลายของ FTX จะเป็นเรื่องน่าตกใจ”⁣⁣
โดย Near Foundation อยู่เบื้องหลังเครือข่าย Blockchain ชื่อ Near และเป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับเงินลงทุนจาก FTX ⁣⁣
⁣⁣
เขามองว่า การล้มละลายของ FTX ไม่น่าส่งผลกระทบทำให้โดมิโนทั้งหมดล้มลง แต่จะเกิดผลกระทบต่อโครงการจำนวนมากจะไม่มีเงินทุนสำหรับพัฒนาต่อไป ⁣⁣
ความกังวลด้านการเงินใน Exchange ใหญ่ ๆ เริ่มมีมากขึ้น⁣⁣
⁣⁣
ตั้งแต่ปี 2020 กว่า 900,000 บิทคอยน์ ไหลออกจาก Exchange (ข้อมูลจาก CryptoQuant)⁣⁣
⁣⁣
Exchange ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Binance กำลังเผชิญคำถามเกี่ยวกับเงินสำรอง ทำให้มีเงินไหลออกจากหลายพันล้านเหรียญในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ⁣⁣
⁣⁣
แม้จะดูไม่มีเหตุที่ Binance ถูกสงสัยว่ามีความเสี่ยงที่จะล้มละลายเช่นเดียวกับ Exchange อื่น ๆ แต่ทั้ง Binance และ Coinbase กำลังเผชิญภาวะท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่ลดลง ⁣⁣
⁣⁣
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า จะมีบาง Exchange ที่ยังทำสิ่งที่ถูกต้องและจะอยู่รอดต่อไป ⁣⁣
เช่นเดียวกับ Bitcoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีอายุยืนยาวที่สุด อาจอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่าเหรียญอื่น ๆ ⁣⁣
⁣⁣
“ผมขอเดิมพันว่า Bitcoin และ DeFi จะแยกออกจากคริปโตฯและมีชีวิตของมันเอง” Gaevoy จาก Wintermute กล่าว ⁣⁣
⁣⁣
3. นวัตกรรม⁣⁣
⁣⁣
แม้ว่าตลาดคริปโตฯ ณ ขณะนี้จะอยู่ในภาวะตกต่ำ แต่อุตสาหรรมสินทรัพย์ดิจิทัล ยังมีแนวโน้มที่จะผ่านพ้นไปได้โดยอ้างถึง Web3 ที่จะนำไปสู่การใช้ Blockchain ในแบบนี้ที่เป็นนวัตกรรมมากขึ้นแทนที่จะใช้เพื่อเก็งกำไรอย่างในปัจจุบัน ⁣⁣
⁣⁣
Flament ให้ความเห็นว่า หลายบริษัทเริ่มเดินหน้าสู่นวัตกรรมเกี่ยวกับดิจิทัลและเมตาเวิร์สมากขึ้น เพราะพวกเขาเข้าใจแล้วว่าเทคโนโลยีเหล่านี้จะมาและจะไม่หายไป ⁣⁣
⁣⁣
เช่นเดียวกับ NFTs ⁣⁣
“สินทรัพย์ดิจิทัลจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรามากขึ้น ผู้คนอาจใช้ NFTs เพื่อระบุตัวตน หรือใช้เป็นตั๋วเพื่อเข้าร่วมงานอะไรสักอย่าง” ⁣⁣
Ian Rogers จาก Ledger บริษัท Crypto Wallet กล่าว ⁣⁣
⁣⁣
อย่างไรก็ตาม Cordel Robbin-Coker CEO Carry1st บริษัทเกมมือถือมองว่า การสร้างกระเป๋าเงินและการจัดเก็บกุญแจยงเป็นเรื่องยาก ⁣⁣
⁣⁣
เขาเทียบ Web3 ในยุคปัจจุบันนี้กับอินเทอร์เน็ตในช่วงต้นยุค 90s “มันเป็นอะไรที่ยุ่งยาก ต้องใช้เวลากว่าจะเรียนรู้ จะมีแค่ผู้ใช้บางส่วนเท่านั้นในตอนแรก (early adopters) แต่เมื่อเวลาผ่านไป การใช้งานง่ายขึ้น และจะถูกใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้น” ⁣⁣

#เริ่มต้นวันนี้ดีที่สุด ขอให้ทุกท่านโชคดีและมีอิสรภาพในการใช้ชีวิต

 

อิสรภาพชีวิต !! อยู่ไหนก็ไม่พลาด อย่าลืมกดติดตามนะครับ หรือเพิ่มช่องทางการสื่อสารได้เลย

 

ส่งข่าวสารถึงมือผ่าน คลิกเลย

 

#ถ้าไม่อยากพลาดแนวคิดการลงทุนและไอเดียการลงทุนดีๆ อย่าลืมกด subscribe และ กดกระดิ่งนะครับ

 

🙂 เข้ากรุปตามช่องทาง ๆ ได้เลยครับ คลิกเลย

TAM-EIG

TAM-EIG

#ทุกเรื่องที่นักลงทุนต้องรู้

1540

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save
error: Content is protected !!