Site icon tam-eig.com

ปู่ชาลี มังเกอร์ คู่หูปู่บัฟเฟตต์เตือนธุรกิจหนังสือพิมพ์สหรัฐ (ขนาดเล็ก) ไม่มีอนาคตอีกต่อไปแล้ว!

#ลงทุนนอกโลก โดยถามอีก กับอิก

 

วันก่อนผมมีโอกาสได้ฟังการสัมภาษณ์ของ นักลงทุนระดับตำนานผู้ที่เคียงบ่า เคียงไหล่ปู่บัฟเฟตต์ มานานหลายสิบปี

 

มีหลายอย่างที่น่าเอามาคิด วิเคราะห์ ต่อ… น่าสนใจมากครับ

 

ปล. ไม่น่าเชื่อว่า ปู่อายุ 96 ปีแล้วแต่ยังคิดไว เล่นมุขตลอด แล้วพูดตอบคำถามได้หมดสบาย ๆ นาน เกือบ 2 ชม.

 

======

 

1. “ผมมองว่า กำลังจะมีปัญหามากมายเกิดขึ้น” โห ปู่มังเกอร์เปิดมาแบบนี้ ต้องตั้งใจฟังหน่อยละครับ

 

2. ปู่มังเกอร์อธิบายสั้นๆก่อนว่า เป็นเพราะตอนนี้มีอะไรหลายๆอย่างที่มัน “มากเกินไป”

 

3. เช่นในจีน “นักลงทุนในจีน มักจะลงทุนเหมือนเป็นพนัน (มากเกินไป)” “มันช่างเป็นสิ่งที่โง่เขลา แทบจะคิดไม่ออกเลยว่าจะมีอะไร ที่โง่เขลาไปมากกว่า วิธีที่นักลงทุนจีนลงทุน”

 

โห ออกตัวแรงมากครับ

 

4. อีกประเด็นที่น่าสนใจมากๆครับ คือ ปู่แกไม่ชอบให้นักวิเคราะห์หรือนักวาณิชธนกิจพูด story เรื่อง EBITDA แล้วเอามาดันราคาหุ้น

 

จะว่าไปตัวอย่างชัด ๆ ที่ “ข่าวเช้าตรู่ โดยถามอีก กับอิก” เคยเล่าให้ฟังตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ก็เป็นเหมือนปู่บอกครับ

 

“UBER กำลังจะมา EBITDA เป็นบวกภายในไตรมาสที่ 4 นี้” CEO ของ UBER บอก นั่นเลยทำให้ราคาหุ้น UBER วิ่งเป็นกระทิงเลยครับ ทั้งๆที่ร่วงหนักมานาน

 

ปู่มังเกอร์มองว่า ไม่ควรมองที่ตัวเลขนี้อย่างเดียว แล้วก็เอามาดันราคาหุ้น (เพราะจริง ๆ แล้วยังขาดทุนหนักมาก)

 

5. ในยุคนี้เราได้เห็นการพัฒนาเทคโนโลยีมาเยอะแยะมากมาย ซึ่งแกมองว่า คงจะยังไม่เห็นการพัฒนาไปมากกว่านี้ในเร็ว ๆ นี้

 

“เราเห็นการพัฒนาแอร์ ซึ่งทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น” “เราเห็นการพัฒนายา มามากแล้ว” แกเลยไม่คิดว่าจะพัฒนาเทคโนโลยีไปได้มากกว่านี้แล้ว

 

แกคงหมายถึง การพัฒนาเทคโนโลยีที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เพราะแกไม่ได้พุดถึงพวก AI, รถยนต์ไร้คนขับ เป็นต้นครับ

 

6. แต่จุดที่น่าสนใจคือ ธุรกิจหนังสือพิมพ์ในสหรัฐอเมริกาถึงจุดจบแล้ว

 

ทำไมแกถึงมองแบบนั้น? เหตุผลเพราะเทคโนโลยีเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ทำให้รายได้ของธุรกิจหนังสือพิมพ์หายไปอย่างมาก แต่ค่าใช้จ่ายยังคงมีอยู่ นั่นแหละเป็นเหตุผลที่อธิบายว่า ในท้ายที่สุดธุรกิจหนังสือพิมพ์ในสหรัฐอเมริกาก็จะเจ๊งครับ

 

“แต่ถ้าเป็นรายใหญ่ๆเช่น New York Times, wall street journal จะยังสามารถอยู่รอดได้ ในขณะที่รายเล็กๆมีโอกาสตายเรียบ”

 

7. ไม่แปลกใจแล้วครับว่าทำไมปู่บัฟเฟตต์ถึงขายหุ้นหนังสือพิมพ์หมดพอร์ตเลยครับมากถึง 31 ฉบับ ด้วยมูลค่า 140 ล้านเหรียญในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ครับ

 

8. แต่แม้ว่าปู่จะมองว่านักลงทุนจีนเก็งกำไรมากไป แต่ก็มองว่าบริษัทในจีนหลายแห่งกำลังมีการเติบโตของกำไรอย่างก้าวกระโดด และเติบโตเร็วกว่าบริษัทในสหรัฐอเมริกาเสียอีก

 

“บริษัทที่แข็งแกร่งที่สุด มีอัตราการเติบโตของกำไรมากที่สุดไม่ได้อยู่ในสหรัฐ แต่อยู่ที่จีนต่างหาก”

 

9. เมื่อพูดถึง คุณ Elon Musk แกบอกว่า “ไม่ควรประเมินศักยภาพต่ำเกินไป สำหรับคนที่มองศักยภาพ (ของตัวเอง) สูงกว่าสิ่งที่ควรจะเป็น”

 

จุกเลย

 

แต่ปู่มังเกอร์ บอกว่า ตัวเค้าไม่เคยซื้อหุ้น Tesla และ ไม่คิดว่าจะ short หุ้น

 

“แม้ว่า Elon จะเป็นคนที่แปลก แต่จริงๆแล้วก็ไม่ใช่ทุกเรื่องที่เค้าพูดผิด” ปู่มังเกอร์ บอกครับ

 

10. แนะนำให้หาสิ่งที่เราฉลาดและเก่งกว่าคนอื่น

 

11. โลกใบนี้อยู่ยากขึ้นมาก ๆ (เมื่อเทียบกับสมัยที่แกโตขึ้นมา) แต่เทคนิคง่าย ๆ ที่แกฝากทิ้งท้าย เพื่อให้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมากขึ้น คือการลดความคาดหวังลงครับ

 

โอว เป็นคำแนะนำที่โดนใจมาก ๆ ครับ

 

========

 

เริ่มต้นวันนี้ดีที่สุด ขอให้ทุกท่านโชคดีและมีอิสรภาพในการใช้ชีวิต

 

อิสรภาพชีวิต !! อยู่ไหนก็ไม่พลาด อย่าลืมกดติดตามนะครับ หรือเพิ่มช่องทางการสื่อสารได้เลย

 

ส่งข่าวสารถึงมือผ่าน Line@: http://bit.ly/TAM-EIG_LINE
คลิกเลย

Exit mobile version