#สรุปOppDay บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) สำหรับงบปี 2562

5157

 

โดยอิก บรรพต ธนาเพิ่มสุข ที่ปรึกษาการเงิน AFPT

 

 จากเพจ: ถามอีก กับอิก

 

ชวนมาดูไฮไลท์ผลประกอบการกันครับ

 

 

KTC มียอดใช้จ่ายบัตรเครดิตเติบโตมากกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งอุตสาหกรรมครับ เติบโต 10.6% (ถ้านับเฉพาะไตรมาสที่ 4 ไตรมาสเดียวพอร์ตเพิ่มขึ้น 4 พันกว่าล้านบาท)

 

ในขณะที่ยอด personal loan เติบโต 7.9% “ทำให้ทั้งพอร์ตรวมโตประมาณ 9.8% ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ 10% อย่างมากครับ” คุณชุติเดช CFO เล่าให้ฟังครับ

 

NPL ต่ำเพียง 1.1% ถือว่าคุมได้ดีเลยครับม กำไรเติบโต 7.5% ,ในขณะที่ต้นทุนทางการเงินก็อยู่ที่ 2.8%,

 

 

 

D/E อยู่ที่ 3.3x ส่วนแหล่งที่มาของเงินส่วนใหญ่เป็นระยะยาวประมาณ 70%

 

ส่วน cost to income อยู่ที่ 34.1% ดีกว่าปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 35.5%

 

ชวนมาดูไฮไลท์ผลเจาะลึกไส้ในธุรกิจบัตรเครดิตกันครับประกอบการกันครับ

 

จำนวนบัตรเครดิตเติบโต 5.2% มาอยู่ที่ 2.51 ล้านใบ มีส่วนแบ่งการตลาด 10.6%

 


ในขณะที่พอร์ตเติบโต 10.9% อยู่ที่ 5.6 หมื่นล้านบาท

 

การใช้จ่ายเติบโต 10.6% อยู่ที่ 2.13 แสนล้านบาท มีส่วนแบ่งการตลาดที่ 11.3%

 

ส่วนธุรกิจ personal loan

 

 

ส่วนแบ่งการตลาดในด้านจำนวนบัญชีตอนนี้อยู่ที่ 5.5% แต่จุดที่น่าสนใขคือ จำนวนบัญชีติดลบลงจาก 9.51 แสนบัญชีเหลือเพียงแค่ 8.88 แสนบัญชี

 

“ปีที่แล้วเรามีการตัดบัญชีที่ไม่ Active เกินกว่า 3 ปีออกไป” แต่พอร์ตมูลค่าของ personal loan ก็ยังเติบโต 7.9% เป็น 2.89 หมื่นล้านบาท

 

 

ผลกระทบจากมาตรฐานบัญชี IFRS 9

 

“มาตรฐานนี้มีผลต่อเฉพาะในแง่การนำเสนอตัวเลข ไม่มีผลต่อวิธีการทำงานของ KTC ต่างไปจากเดิม”

 

 

เรื่องแรกที่เปลี่ยนไป คือ การเปลี่ยนวิธีการตัดหนี้สูญ และ รายงาน NPL

 

“มาตรฐานบัญชีใหม่บอกว่าเราจะยังไม่สามารถตัดหนี้สูญออกไปได้จนกว่าจะถึงจุดสุดท้ายที่เรียกเก็บหนี้ไม่ได้จริงๆแล้ว” ในระหว่างนั้นให้เอาตัวเลขไปเก็บไว้ในตัวเลข NPL ทำให้ตัวเลข NPL อาจจะดูสูงขึ้น

 

 

อย่างที่ 2: เปลี่ยนวิธีการรายงาน NPL และอัตราส่วน

 

NPL ต่อพอร์ต จะค่อย ๆ ขยับขึ้นในแต่ละไตรมาส

 

อย่างที่ 3: หนี้สูญกับ NPL

 

ก่อนหน้านี้ถ้า NPL มีอายุเกิน 90 วันก็จะสามารถตัดหนี้สูญได้ (จะไม่สามารถตัดหนี้สูญได้เลย จนกว่าจะเชื่อได้ว่าจะไม่สามารถตามเก็บหนี้ได้)

 

นั่นหมายความว่ามาตรฐานฉบับใหม่จะ ไม่เปิดช่องให้ KTC ตัดหนี้สูญเมื่อมีการผิดนัดชําระสามเดือน โดยจะต้องตั้งสำรองตามที่โมเดลคำนวณมาให้

 

ซึ่ง KTC ตัดหนี้สูญสูงถึง 5.9 พันล้านบาทในปี 2561 และ 6.3 พันล้านบาทในปี ที่แล้วและทําให้การตัดหนี้สูญในอนาคต และจะต้องลดลง ทําให้การตั้งสํารองฯลดลงตามไปด้วย

 

อย่างที่ 4 คือ การรับรู้รายได้

 

คือให้คิดดอกเบี้ยของตัวเลข NPL ด้วย

 

 

 

ตัวอย่างกลยุทธ์เชิงรุกของธุรกิจบัตรเครดิต

 

1. การขยายฐานบัตรเครดิต เพิ่มอีก 3.2-3.5 แสนบัตร เพิ่มจากปัจจุบันที่มีสมาชิก 2.5 ล้านใบ

 

2. รุกธุรกิจหาลูกค้าทางออนไลน์และร่วมกับพันธมิตร (ขยายฐานสมาชิก)

 

3. ใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์ทำให้เข้าใจลูกค้ามากขึ้น ซึ่งช่วยให้ปรับปรุงประสบการณ์การใช้บริการของลูกค้า

 

4. จะเน้นการบริการบัตรเครดิตร่วมกับ ท่องเที่ยว (เดือนมค.โตหนักมาก แต่ กพ.เริ่มชะลอบ้าง), การทานอาหาร (ผู้บริหารยอมรับว่ากำลังแข่งกับ street food ที่มีการสั่งอาหารผ่านไลน์แมน , grab เยอะขึ้น) และออนไลน์ (ยอดใช้จ่ายโตหลัก 40% ปีที่แล้ว) ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเทรนด์ของคนรุ่นใหม่

 

สำหรับกลยุทธ์เชิงรุกธุรกิจ personal loan

 

ปัจจุบันมีจำนวนสมาชิกกว่า 9 แสนราย เป้าหมายคือให้ลูกค้าเก่ามีการใช้จ่าย แต่มีประวัติการชำระดี

 

 

1. “จะเน้นไปที่การหาลูกค้าใหม่ เพราะปีนี้เป็นอีกปีที่มีความท้าทาย” ผู้บริหารยอมรับครับ

 

โดยจะมีโปรโมชั่นดอกเบี้ยพิเศษสำหรับคนที่สมัครไตรมาสที่ 1 , เลือกผ่อนชำระเป็นงวดได้

 

2. จับมือกับพันธมิตร สำหรับลูกค้าที่อยากต่อยอดธุรกิจการศึกษา

 

3. มีแคมเปญ เคลียร์หนี้เกลี้ยง

 

4. เน้นออนไลน์มากขึ้น โดยลูกค้าสามารถเบิกถอนออนไลน์

 

 

กลยุทธ์อื่น ๆ

 

1. “ยอมรับเหมือนกันว่า ช่วงที่ผ่านมาคุณภาพของสินทรัพย์เริ่มแย่ลง” “โดยรอบนี้เศรษฐกิจชะลอครบทีมเลยครับ ทั้งด้านการผลิต ภาคบริการ และการค้า”

 

คุณระเฑียร ศรีมงคล ผู้บริหารมาดเข้มบอกครับ โดยจะดูแลลูกค้ากลุ่มนี้เป็นพิเศษ

 

KTC ได้รับผลกระทบบ้างแต่ถือว่าน้อย

 

 

2. คุณระเฑียรไม่ได้มองว่า คริปโต จะเป็นปัญหา จะเข้ามา disrupt เพราะตอนนี้วาง KTC เป็นแพลตฟอร์มชำระเงิน และแพลตฟอร์มการปล่อยกู้ให้กับรายย่อย

 

“เรื่อง คริปโต นี้ไม่มีทาง disrupt เราได้เลย” เพราะคนใช้บัตรเครดิต KTC สามารถใช้สกุลเงินไหนก็ได้

 

3. ตอนนี้ KTC กำลังอยู่ในช่วงการทบทวนกระบวนการภายในบริษัทครั้งใหญ่ โดยจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจได้อีก

 

“ปีนี้จะเป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงใน อุตสาหกรรมการเงินได้อย่างรวดเร็วและรุนแรง โดยผู้ที่อยู่รอดจะต้องมีความคล่องตัวสูง” “และจะต้องมีต้นทุนที่อยู่ใน first quartile” คุณระเฑียร บอกว่าคนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยได้ดูต้นทุนในการใช้เทคโนโลยี

 

4. “ล่าสุดมีหลายกระบวนการที่เราเคยตัดสินใจว่าจะไม่ทำ แต่อาจจะกลับมาทำ” เหตุผลเพราะ KTC ต้องการต่อจิ๊กซอว์ธุรกิจให้ครบ

 

5. เกณฑ์ของแบงค์ชาติ ไม่มีผลอะไรกับ KTC เพราะ ปกติ KTC ค่อนข้าง conservative มาก

 

6. สิ่งที่ KTC ทำตอนนี้คือ process reengineering เข้าไปดู workflow เก่า ๆ ว่าจะแก้ไขยังไงได้บ้าง

 

“ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมาเราไม่ได้รับคนเพิ่มเลย และไม่มีนโยบายปลดคนออก” แต่สิ่งที่ยากคือจะ reskill ฝึกทักษะใหม่ ๆ ให้กับคนยังไงได้บ้าง

 

7. นอกจากนี้ KTC มองว่าผลกระทบจากโคโรนา มีผลบ้างแต่ถือว่าไม่ได้เยอะ “ถ้าดูจากตัวเลขรายได้ก็ยังเติบโตได้”

 

สิ่งที่เราห่วงคุณภาพของสินทรัพย์มากกว่า ผลกระทบจากโคโรนา แต่ผลกระทบอาจจะมีผลต่อคนทำงานที่เป็นคนจีน เพราะเก่งและต้นทุนถูก

 

8. มีโอกาสออกหุ้นกู้ 1 -1.2 หมื่นล้านบาทในปีนี้ ในช่วงดอกเบี้ยต่ำ

 

เป้าหมายปีนี้ ของ KTC เป็นยังไงครับ?

 

1. KTC คาดว่า จะเติบโตตามการเติบโตของธุรกิจบัตรเครดิต ที่คาดว่ายอดใช้จ่ายจะเติบโต 15%

 

2. เป้าหมายจำนวนบัตรเครดิตใหม่เพิ่มขึ้น 3.2-3.5 แสนบัตร

 

3. ส่วนธุรกิจสินเชื่อ มีเป้าหมายเติบโต 10% เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวลง ทำให้ลูกค้ามีความต้องการใช้เงินจำนวนมากขึ้น

 

4. NPL ตั้งเป้าว่าจะอยู่ที่ใกล้เคียงกับ 1.06%

 

========

 

เริ่มต้นวันนี้ดีที่สุด ขอให้ทุกท่านโชคดีและมีอิสรภาพในการใช้ชีวิต

 

อิสรภาพชีวิต !! อยู่ไหนก็ไม่พลาด อย่าลืมกดติดตามนะครับ หรือเพิ่มช่องทางการสื่อสารได้เลย

 

ส่งข่าวสารถึงมือผ่าน Line@: http://bit.ly/TAM-EIG_LINE

คลิกเลย

TAM-EIG

TAM-EIG

5157

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save
error: Content is protected !!