ทำไมผู้เชี่ยวชาญระดับโลกถึงมองว่าปี 2020 จะเป็นปีที่เศรษฐกิจมีโอกาสถดถอย ??
เริ่มจาก JPMorgan ก่อนครับ
“โอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยมีสูงถึง 80% ในอีก 3 ปีข้างหน้า” นักวิเคราะห์ค่าย JPMorgan ฟันธงครับ
วิเคราะห์จากอะไร?
ใช้โมเดลคอมพิวเตอร์ วิเคราะห์รอบด้านเลยครับ ทั้งบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอย ของคน , ทั้งความมั่นใจในการทำธุรกิจของภาคเอกชน, ตลาดแรงงาน, และ GDP ไปจนถึงเรื่องปัจจัยพื้นฐาน
ข่าวดีนิดนึงก็คือ สำหรับปีหน้านั้น เค้ามองว่ามีโอกาสที่จะเกิดวิกฤติเพียง 28%
======
ใกล้เคียงกับ การวิเคราะห์ของคุณ เบนเบอร์นาเก้ อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐที่มองว่า ปี 2020 จะเป็นปีที่อันตรายเหตุผล มาจากนโยบายการลดภาษีนิติบุคคล และการเพิ่ม งบประมาณของทางภาครัฐ
“เรากำลังกระตุ้นเศรษฐกิจผิดจังหวะเวลา เพราะตอนนี้อัตราการจ้างงานก็เต็มที่อยู่แล้ว (ไม่มีความจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ)”
======
ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์จาก Moody’s มองว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีโอกาสถดถอยในปี 2020 เช่นกัน
“อัตราการว่างงาน 3.7% เป็นตัวชี้เป็นชี้ตาย ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนอีกต่อไปแล้ว”
ทำไมเค้าถึงพูดแบบนั้น?
เพราะถ้าอัตราการว่างงานต่ำมากเกินไป อีกนัยยะหนึ่งคือ การจะหาคนมาทำงานก็ยากหรือถ้าหาได้ ก็ต้องจ่ายค่าแรงราคาแพง
ตรงจุดนี้แหละคือสิ่งที่สำคัญครับ เพราะจะทำให้กำไรของบริษัทจดทะเบียนลดลง และอาจจะต้องบีบให้บริษัทต้องขึ้นราคาสินค้าและบริการ
เมื่อราคาสินค้าและบริการแพงขึ้น สิ่งที่ตามมาคือ อัตราเงินเฟ้อ และนั่นจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐขึ้นดอกเบี้ยมากขึ้น
เมื่อขึ้นดอกเบี้ยก็ทำให้ต้นทุนบริษัทที่เป็นหนี้เยอะๆก็เพิ่มขึ้นอีก วนลูปไป เรื่อยๆ
=============
เจตนาไม่ได้บอกว่าเรากำลังจะเจอวิกฤตินะครับ แต่อยากนำเสนอมุมมองว่าต่างชาติเค้ามองอะไรบ้าง
แล้วถ้าเกิดวิกฤติจริง เราจะได้ตั้งรับกันถูก ไม่ตกใจเกินเหตุครับ สู้ๆค้าบบบบ
=============
ไม่อยากพลาด! Add [email protected]ไว้นะครับ
https://line.me/ti/p/%40Tam-eig
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนและภาพจาก JPMorgan, Moody’s, Fed, Quartz