สดๆร้อนๆเลยครับ ดูผิวเผินก็คงไม่มีอะไร แต่ผมมาสะดุดตาที่ รายงานกลต. ที่บอกว่า ปู่บัฟเฟต์ต ขายหุ้น Apple ออกมานิดหน่อยละค้าบบบบบ
เลยชวนมาดู หุ้นตัวอื่นด้วยเลยว่า ปู้ทำอะไรบ้างในช่วง 3 เดือนล่าสุด
============
หุ้นที่ปู่ขาย มี 2 ตัวหลัก ๆ ครับ:
1. Apple

ประเภทธุรกิจ: เทคโนโลยี ( ไอแมค ไอพอด ไอโฟน ไอแพด และร้านขายเพลงออนไลน์ไอทูนส์ และ icloud อื่นๆอีกมากมาย)
รายได้ปี 2018: 2.65 แสนล้านเหรียญ (8 ล้านล้านบาท) กำไรปี 2018: 5.9 หมื่นล้านเหรียญ (1.8 ล้านล้านบาท)
Market cap: 8 แสนล้านเหรียญ หรือ 24.1 ล้านล้านบาท (forward P/E 13.4x)
หลังจากก่อนหน้านี้ทุกคนก็แปลกใจว่าทำไมปู่บัฟเฟตต์จัดหนักซื้อหุ้น Apple แบบรัวๆ แทบจะทุกไตรมาส ล่าสุด รายงานจาก กลต.บอกว่า ปู่ขายออกมาบ้างแล้วครับ
“จากเดิม Berkshire ถือหุ้น Apple 252.5 ล้านหุ้น ตอนนี้เหลือ 249.6 ล้านหุ้น” โดยยังไม่ได้มีคำอธิบายใดๆจากปู่บัฟเฟตต์ครับ
แต่คาดการณ์เบื้องต้นว่า คงจะเป็นเพราะผลประกอบการณ์ที่เริ่มเติบโตน้อยลงจากยอดขาย iphone ลดลง โดยเฉพาะที่จีน
============
2. oracle

ประเภทธุรกิจ: ผู้ให้บริการระบบจัดการฐานข้อมูลและซอฟต์แวร์เชิงธุรกิจชั้นนำของโลก
รายได้ปี 2018: 3.9 หมื่นล้านเหรียญ (1.2 ล้านล้านบาท) กำไรปี 2018: 3.8 พันล้านเหรียญ (1.14 แสนล้านบาท)
Market cap: 1.84 แสนล้านเหรียญ หรือ 5.5 ล้านล้านบาท (forward P/E 14.07x)
ปู่บัฟเฟตต์ขายหุ้น Oracle รอบนี้ไปประมาณ 2.1 พันล้านเหรียญ หรือ 6 หมื่นล้านบาท ที่น่าแปลกใจคือปู่เพิ่งซื้อไปไม่นานช่วงปลายปีที่แล้วนี่เอง แต่เพราะอะไรถึงขายเร็วขนาดนี้
============
ชวนมาดูหุ้นที่ปู่ซื้อจัดหนักบ้างครับ
1. หุ้น Suncor

ทำธุรกิจอะไร: บริษัทพลังงานน้ำมันและแก๊สยักษ์ใหญ่ ที่สุดสัญชาติแคนาดา
ซื้อเท่าไหร่: มากถึง 10.8 ล้านหุ้น (มูลค่า 300.9 ล้านเหรียญ หรือ 9 พันล้านบาท)
Market cap: 5.1 หมื่นล้านเหรียญ หรือ 1.5 ล้านล้านบาท (forward P/E 16.27x)
ข่าวนี้ทำให้หุ้น Suncor วิ่งฉิว 4% ครับ สิ่งที่น่าสนใจคือปู่เคยซื้อหุ้นตัวนี้และขายไปแล้วเมื่อ 6 ปีที่แล้ว (เคยซื้อตอนปี 2013 ก่อนจะขายไปในปี 2016)
แต่ตอนนี้ราคาน้ำมันไม่สูงและคนไม่สนใจหุ้นตัวนี้ และช่วงที่ผ่านมาหุ้นร่วงหนัก 17% หลังต้องลดกำลังการผลิตน้ำมันลง
ทำให้ปู่เริ่มสนใจและกลับมาเก็บเข้าพอร์ตละครับ
============
2. หุ้น Red Hat

ทำธุรกิจอะไร: ผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการ และพัฒนา solution แบบ open source และเก่งเรื่อง cloud
จำนวนหุ้นที่ซื้อ: 4.175 ล้านหุ้น (มูลค่า 733 ล้านเหรียญ หรือ 2.2 หมื่นล้านบาท)
รายได้ปี 2018: 2.9 พันล้านเหรียญ (9 หมื่นล้านบาท) กำไรปี 2018: 258 ล้านเหรียญ (7.8 พันล้านบาท)
Market cap: 3.1 หมื่นล้านเหรียญ หรือ 9 แสนล้านบาท (forward P/E 14.07x)
============
3. หุ้นยานยนต์ General Motors

ทำธุรกิจอะไร: ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในสหรัฐ
จำนวนหุ้นที่ซื้อเพิ่ม: 20 ล้านหุ้น (ทำให้ตอนนี้มีทั้งหมด 93.2 ล้านหุ้น หรือ 1.08 แสนล้านบาท)
รายได้ปี 2018: 1.47 แสนล้านเหรียญ (4.4 ล้านล้านบาท) กำไรปี 2018: 8 พันล้านเหรียญ (2.4 แสนล้านบาท)
Market cap: 5.4 หมื่นล้านเหรียญ หรือ 1.6 ล้านล้านบาท (forward P/E 6.09x)
ตัวนี้ก็น่าสนใจเพราะเป็นค่ายรถยนต์ระดับตำนานของสหรัฐแต่ระยะหลังรายได้เริ่มชะลอตัวลง แต่ก็ผ่านช่วงผ่าตัดองค์กรครั้งใหญ่ทำให้ผลประกอบการเริ่มดีขึ้น กระบวนการผลิตรถยนต์มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเริ่มจับมือพันธมิตรกับ Uber พัฒนารถยนต์ไร้คนขับ
============
4. และเก็บหุ้นธนาคารแบบรัว ๆ ทั้ง Bank of America, U.S.Bankcorp, PNC, Bank NY Mellon, JP Morgan

JP Morgan: ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐ (ตอนนี้ปู่ถือหุ้นเพิ่มขึ้นจนมูลค่าสูงถึง 4.9 พันล้านเหรียญหรือ 1.5 แสนล้านบาท)
Bank of America: ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดอันดับที่ 2 ของสหรัฐ
U.S.Bankcorp: ใหญ่ที่สุดอันดับที่ 7 ของสหรัฐ
PNC: ใหญ่ที่สุดอันดับที่ 9 ของสหรัฐ
Bank NY Mellon: ใหญ่ที่สุดอันดับที่ 10 ของสหรัฐ
ล้วนแล้วแต่เป็นธนาคารที่มีสินทรัพย์มูลค่ามหาศาล การเงินมั่นคง ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นและมีฐานลูกค้าจำนวนมาก
============
5. Stone Co.

ทำธุรกิจอะไร: startup ก่อตั้งในปี 2012 เน้นทำธุรกิจระบบชำระเงินผ่านบัตรเครดิตและเทคโนโลยีต่างๆ เน้นจับกลุ่มพ่อค้า แม่ค้า ออนไลน์ในบราซิล โดยมีรายได้จากค่าธรรมเนียมต่อ transaction
Berkshire เข้าซื้อ: 261 ล้านเหรียญ หรือ 8 พันล้านบาท
ถือว่าเป็นม้านอกสายตาเลยครับที่ปู่เข้าไปซื้อ โดย Stone Co เป็นบริษัทสัญชาติบราซิล เพิ่งเข้าตลาดฯไปในเดือน ตุลาคม ที่ผ่านมาครับ (แต่ Alibaba ของเฮีย แจ๊ค หม่าไวกว่าครับ เข้าไปซื้อหุ้นก่อนเข้าตลาดเสียอีกครับ)
ปัจจุบัน Stone Co. มีลูกค้ากว่า 2 แสนราย และมีรายได้ครึ่งปีแรกของปีที่แล้วกว่า 5.1 พันล้านบาท และกำไร ครึ่งปีแรก 708 ล้านบาท
“ตอนนี้เราเน้นเจาะกลุ่มตลาด sme พ่อค้าแม่ค้า ที่มีมากกว่า 8.8 ล้านรายในบราซิล และตอนนี้ยังเข้าถึงบริการทางการเงินได้น้อยมาก” CEO ของ stone Co. บอกครับ (ขนาดมีลูกค้าหลักแสนรายยังมีรายได้มากขนาดนี้ ถ้าเจาะตลาดได้มากขึ้น รายได้จะขนาดไหนนนนนนน)
============
ไม่อยากพลาด! อย่าลืมกดติดตามนะครับ
[email protected]: http://bit.ly/TAM-EIG_LINE
Twitter: http://bit.ly/TAM-EIG_Twitter
Youtube: http://bit.ly/TAM-EIG_Youtube
ขอบคุณภาพข้อมูลบางส่วนจาก Reuters