BTS ไม่ได้ให้รถไฟฟ้าอย่างเดียวนะค้าบบบ
1. ให้บริการรถไฟฟ้า (สัดส่วนรายได้ 65%)
เป็นธุรกิจหลักของ BTS ให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการระบบรถไฟฟ้า
ขายและติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกล บริหารโครงการและควบคุมการก่อสร้างระบบรถไฟฟ้า
และให้บริการเดินรถระบบรถโดยสารด่วนพิเศษ BRT
2. สื่อ: (สัดส่วนรายได้ 28%)
ประกอบธุรกิจ 3 แพลตฟอร์ม เช่น ธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน เช่น กลางแจ้ง, อาคารสำนักงาน สื่อโฆษณาในสนามบิน และการสาธิตสินค้า , ธุรกิจให้บริการชำระเงินของแรทบิทกรุ๊ป, และธุรกิจโลจิสติกส์ที่ครบวงจรของเคอรี่ เอ็กเพรส
3. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (สัดส่วนรายได้ 4%)
ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์เชิงที่พักอาศัย ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียม , อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ประกอบด้วย เซอร์วิสอพาร์เมนท์ อาคารสานักงาน โรงแรม และสนามกอล์ฟและสปอร์ตคลับ และ ที่ดิน
4. ธุรกิจบริการ (สัดส่วนรายได้ 3%)
ได้แก่ บัตรแรบบิท , แรบบิท ไลน์ เพย์ , ธุรกิจนายหน้าประกันภัย โดยให้บริการเปรียบเทียบราคาผลิตภัณฑ์ประกัน และผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่น ๆ ออนไลน์ ในชื่อ “แรบบิท ไฟแนนซ์ (Rabbit Finance)”
นอกจากนี้ ยังปรับโครงสร้างการถือหุ้น มีธุรกิจร้านอาหาร ได้แก่ “ChefMan” “Man Kitchen” “M Krub” และ “Chairman by Chef Man” โดยลงนามในสัญญาร่วมทุนกับบริษัท บางกอกแร้นช์ จากัด (มหาชน) และ นาย ไว ยิน มาน เพื่อร่วมลงทุนในธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคาร
=========================
ชวนมาดูความคืบหน้าของแต่ละธุรกิจกันครับ
1. ให้บริการรถไฟฟ้า:
วันที่ 16 มิย.ปีที่แล้ว ได้เซ็นสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และสีชมพู, 1 ตค. ที่ผ่านมาก็ปรับค่าโดยสาร, หลังจากนั้น 10 ตค. ก็เซ็นสัญญาเงินกู้ syndicate loan กับ 3 ธนาคาร (กรุงไทย, กรุงเทพฯและไทยพาณิชย์)
ยอดผู้โดยสารเส้นรถไฟฟ้าสายสีเขียวมีจำนวนกว่า 271 ล้านเที่ยวคน (เพิ่มขึ้น 1.3% จากปีก่อน) + ค่าโดยสารเพิ่มขึ้น 1.4% เป็น 28.3 บาทต่อเที่ยว
2. สื่อ:
VGI ซื้อ MACO เพื่อขยายธุรกิจไปต่างจังหวัด, VGI เซ็นสัญญา AIS เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของ Rabbit Group, VGI เข้าซื้อ Kerry Express Thailand (ผู้นำด้านการขนส่งสินค้า โดยส่งสินค้าต่อวัน 6 แสนชิ้น)
ก่อนหน้านี้ VGI เข้าซื้อ 23% Kerry Express ด้วยมูลค่า 5,900 ล้านบาท (คาดว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 14 สค. 2561)
ล่าสุด VGI จับมือ ช่อง 7 ร่วมทุนตั้งบริษัท บุกตลาดสื่อครบวงจร
https://www.facebook.com/309527089143639/posts/1770554206374246/
โดยมองว่า อนาคตจะใช้ข้อมูลหรือ Big Data มาช่วยนำเสนอสื่อโฆษณาให้ตรงกลุ่มลูกค้ามากที่สุด และสามารถวัดผลของเม็ดเงินโฆษณาได้
3. อสังหาฯ:
โอนสินทรัพย์อสังหาฯไปที่ U city (โครงการ BTS-แสนสิริ) โดย BTS ถือหุ้น U city 38%
โดยปัจจุบัน U มีโรงแรมภายใต้การบริหารรวมกันกว่า 19,000 ห้องทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นกลุ่มธุรกิจในเครือ BTS ที่รุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้กับทั้งกลุ่ม
=========================
ทำธุรกิจเยอะขนาดนี้ตัวเลขการเงินเป็นยังไงครับ?
Operating EBITDA: 4,000 ล้านบาท
Net profit: 4,400 ล้านบาท (มีรายการพิเศษ มาจากการโอนทรัพย์สินให้ U city)
Net D/E: 0.37x (มีสถานะทางการเงินแข็งแกร่ง เพื่อรับโปรเจคถัดไป)
Dividend: 3.95%
=========================
เป้าหมายของ BTS สูงใช้ได้เลยครับ
รายได้เติบโต 200% (เม.ย.61-มี.ค.62) มาจากธุรกิจหลัก คือ
1.ระบบขนส่งมวลชน จะรับรู้รายได้ต่อเนื่องจากการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าคาดว่าเติบโต 30%
2. จากการรับเหมาติดตั้งงานระบบและจัดหารถไฟฟ้าสำหรับรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือและใต้ 7-9 พันล้านบาท
3.บันทึกรายได้จากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลือง 2 – 2.5 หมื่นล้านบาท
4. คาดว่าจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายหลักจะเพิ่มขึ้นอีก 4-5% ขณะที่อัตราค่าโดยสารเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1.5-2%
5.ธุรกิจโฆษณา คาดว่าจะมีรายได้ 4.4-4.6 พันล้านบาท
=========================
เป้าหมายของ BTS ในระยะ 5 ปีข้างหน้า
Operating Revenue เติบโตเฉลี่ย 29% ต่อปี
กำไรสุทธิจากรายการที่เกิดขึ้นประจำ คาดว่า จะเติบโต 29%
(สำหรับ VGI ตั้งเป้ารายได้ในระยะ 3 ปี เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่มีรายได้ 4 พันล้านบาท)
=========================
คำถาม: ทำไม ต้องออก Warrant ตัวใหม่
คำตอบ: เพราะเตรียมตัวลงทุนโครงสร้างพื้นฐานตามนโยบายของรัฐบาล
(โดย warrant 3 กำลังจะหมดอายุ เพราะนโยบายลงทุนของรัฐบาลชะลอมาหลายปี แต่ตอนนี้เตรียมออก warrant 4 มีอายุ 1 ปี) ผู้บริหารบอกว่าเป็นการเตรียมความพร้อมด้านการเงิน ถ้าโอกาสมา ต้องคว้าโปรเจคให้ได้
=========================
ไม่อยากพลาด! กดติดดาวเพจหรือ Add line ไว้นะครับ
คลิก https://line.me/ti/p/%40Eig_Banphot