Facebook page: ถามอีก กับอิก เรื่องลงทุน
โดย อิก บรรพต ธนาเพิ่มสุข ที่ปรึกษาการเงิน AFPTtm
===========
COM 7 ทำธุรกิจอะไรครับ?
COM7 เก่งธุรกิจค้าปลีกและไอทีมีสาขาทั้งหมด 662 สาขา ทั่วประเทศ (ยกเว้นพังงานและแม่ฮ่องสอน แต่กำลังจะเปิดปีนี้) ล้วนแล้วแต่เป็นแบรนด์ที่คนไทยคุ้นเคยครับ เช่น
BaNANA 208 สาขา , Studio7 100 สาขา , Kingkong Phone 103 สาขา , BKK 37 สาขา , TRUE Shop by com7 92 สาขา , BaNANA Shopping (แฟรนไชส์) 59 สาขาโดยเน้นจังหวัดเล็กๆ , iCare 26 สาขา และ Brand Shop 37 สาขา
“ตั้งเป้าสิ้นปีนี้มีสาขาเพิ่มเป็น 847 สาขา ใช้งบลงทุนในการเปิดสาขา BaNANA อยู่ที่ 3.5 ล้านบาทต่อสาขา ส่วน Kingkong Phone และ BKK ใช้งบอยู่ที่ 1 ล้านบาทต่อสาขา”
ส่วนการเปิดสาขาธนาคารกสิกรไทยในรูปแบบสาขาขนาดย่อม (Mini-Branch) ในร้านบานาน่า (BaNANA) ตอนนี้มีอยู่ 2 สาขา และผู้บริหารเล่าให้ฟังว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากขึ้น 50% และปีนี้มีแผนจะเปิดอีก 2-3 สาขา กำลังอยู่ระหว่างเจรจาความเหมาะสมของทำเล
===========
ผลประกอบการไตรมาสแรก ยังเติบโตดี
“ยอดขาย COM 7 ไตรมาสแรกปี 2019 เราปิดได้ 7,661 ล้านบาท เติบโต 20%” ผู้บริหารอธิบายอย่างภาคภูมิใจครับ ในขณะทีอัตรากำไรเติบโตมากถึง 40% ครับ

แต่จุดที่ต้องติดตามคือ ส่วนผสมของยอดขายเริ่มเปลี่ยนไปบ้างครับ เดิม smart phone คิดเป็นสัดส่วน 53% ของยอดขายตอนนี้เหลือ 51%
ในขณะที่ยอดขาย tablet มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 14% เป็นตัวเลขที่น่าสนใจครับ
===========
ชวนมาดูไส้ในส่วนผสมของ COM7 ครับ
“Desktop บอกเลยว่ายอดขายไม่ดี ในไตรมาสแรก เพราะก่อนหน้านี้ยอดขายดีเป็นเพราะสกุลเงินดิจิตอลล ทำให้มี ความต้องการซื้อสินค้าพวก การ์ดจอแบบก้าวกระโดด”
แต่อย่างที่เราทราบแหละครับว่าราคาบนกระดานร่วงมาเยอะ (ตอนหลังเริ่มเด้งขึ้นมาแล้ว) แต่กระแสนี้หายไปแล้ว คนเจ็บตัวหนักก็เข็ดนั่นแหละครับ

“แต่ถ้าเทียบกับอุตสาหกรรมจะเห็นว่า อุตสาหกรรมตัวเลขขาย Desktop ยังเติบโตครับ” ผู้บริหารอธิบายว่าเป็นเพราะคนซื้อการ์ดจอน้อยลงแต่หันไปเล่นเกมมากขึ้นครับ

สำหรับ Laptop ไม่เติบโต ทรงๆครับ, ในขณะที่โทรศัพท์เติบโต 20% , accessories เติบโต 29%
แต่ที่น่าสนใจมากที่สุดคือ Tablet ครับที่เติบโตหนักมากถึง 60% ครับ “เหตุผลคือ ipad ขายดีมากๆครับ”
===========
แต่เดี๋ยวก่อน ก่อนจะงง มาดูธุรกิจหลัก 4 อย่างของ COM7 กันครับ

1. ออนไลน์: ตอนนี้พัฒนาเวปไซต์ใหม่เสร็จแล้วเพิ่งเปิดตัวไป 1 เดือนแล้ว แบบ soft launch โดยผู้บริหารเล่าให้ฟังว่าในช่วงไตรมาสที่ 3 จะเปิดตัว แอปมือถือ นั่นหมายความว่าจะเปิดตัวออนไลน์เต็มที่ในช่วงไตรมาสที่ 3 ครับ

2. Commercial: COM7 เปิดตลาดนี้ตั้งแต่ปี 2561 ครับ โดยตอนนี้มียอด backlog 1 พันล้านบาทแล้ว

3. Service: ให้บริการ เช่น icare เป็นศูนย์ซ่อม (มี 25 สาขา โดยมีส่วนแบ่งการตลาด 80%), สำหรับการเปิด shope ร่วมกับ True เป็นแบบ co branch เปิดร้านร่วมกันโดยเฉพาะในสาขาที่ห่างไกล (ตอนนี้ ปี 2019 มี 92 shop ครับ)
4.Retail: ยังเป็นธุรกิจเส้นเลือดหลักของ Com7 ตอนนี้มีหลักๆ 9 แบรนด์ ครอบคลุม 75 จังหวัด
ธุรกิจนี้จะแบ่งเป็น 2 ส่วนครับ คือ ส่วนแรก multibrand ขายหลายแบรนด์ เช่น banana, BKK, kingkong
นอกจากนี้ยังมีแบบที่ขายแค่แบรนด์เดียว เช่น Samsung, oppo, vivo, หัวเว่ย, studio7

===========
ตัวเลขสำคัญของ COM7

“ให้ดู same store sales growth เป็นหลักโดยภาพรวมเติบโต 11%” ผู้บริหารให้คำแนะนำครับ จะเห็นว่า Banana ยอดขาย SSSG โต 10%, Studio7 โต 14%, ส่วนแบรนด์อื่นๆเช่น Samsung, oppo, vivo, หัวเว่ย เติบโต 11%,
===========
ภาพรวม Apple ภาพรวมยังเติบโต 15%

มาเจาะเฉพาะ Apple ครับจะเห็นว่า ยอดขาย iphone ลดลง 1%, Mac แทบะจะเติบโต
ส่วนที่เจ๋งคือ Apple watch โตหนัก 102% แต่ที่เจ๋งกว่าคือ ยอดขาย Ipad ที่โตถึง 76%

ถ้าดูยอดขาย iphone จะเป็นตัวบอกได้หลายอย่างครับเพราะ “คนที่มี apple watch จะต้องมี iphone ส่วนคนที่มี iphone ไม่จำเป็นต้องมี Apple watch ก็ได้”
สำหรับ iphone รุ่นใหม่ๆเทียบกับรุ่นเก่าในระดับโลก เริ่มดีขึ้นแล้วครับ “เดือนม.ค. ร่วง 27% , กพ. ลด 17%, ในขณะที่ มี.ค. ลดลงเพียง 2% และเม.ย.คนกลับมาซื้อ iphone มากขึ้นแล้ว”
แต่ผู้บริหารอธิบายว่าเหตุผลที่ยอดขาย iphone ของ Com7 ไม่ได้แย่มาก ลดลงแค่ 1% นั่นเป็นเพราะกลยุทธ์เอาเครื่องรุ่นเก่าๆมาขายเพื่อชดเชยกับ iphone รุ่นใหม่ที่อาจจะมีราคาแพงในสายตาผู้บริโภค
===========
มาดูทางค่าย Android กันบ้างครับ
ในภาพรวมสมาร์ทโฟนเติบโต 20% ในขณะที่ iphone ติดลบ 1% นั่นหมายความว่า ยอดขายหลักๆมาจาก Android ครับ

“ยอดขายหัวเว่ยคิดเป็นเพยง 3% ถ้าเกิดสงครามการค้าลูกค้าไปซื้อแบรนด์อื่นก็อาจจะ ทำให้ยอดขายลดลงเพียง 1% ครับ” คุณสุระ ให้คำอธิบายนอกรอบ
===========
มาเจาะดูตัวเลขที่น่าสนใจของธุรกิจค้าปลีกบ้างครับ
“มียอดขาย 2.2 ล้านชิ้นในไตรมาสแรกปีนี้ เติบโต 40%”

นอกจากนี้ยังมีลูกค้า 7.24 แสนราย ที่แวะไปที่สาขา คิดเป็นตัวเลขเติบโต 20% และมียอดที่ลูกค้าซื้อต่อบิลเพิ่มขึ้น 10% คิดเป็นมูลค่า 8,720 บาท
===========
COM7 เปิดเกมรุกทุกรูปแบบนะครัช
1. รุกลูกค้ากลุ่มองค์กร (B2B) จากปัจจุบันมีความแข็งแกร่งในธุรกิจลูกค้าทั่วไป (B2C) อยู่แล้ว
2. การขยายสาขาของแฟรนไชส์จะช่วยให้ร้าน BaNANA สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น ซึ่งในปีนี้จะมีแฟรนไชส์เปิดเป็น 130 สาขา
3. รุกตลาดออนไลน์มากขึ้น โดยบริษัทเตรียมที่จะเปลี่ยนชื่อเว็บไซต์มาเป็น Banana.in.th เพื่อที่จะให้ลูกค้าเข้าถึงมากขึ้น และเพิ่มยอดขายในช่องทางนี้ได้มากขึ้นด้วย

4. บุกตลาดเกมมากขึ้น โดยหลักๆตอนนี้คนเล่น playstation มากขึ้นทำให้ได้รับความนิยมมากขึ้นครับ โดยจะเปิดร้านเกม แบรนด์ใหม่

5.เปิดกลุยธ์ co brand กับแบรนด์อื่นมากขึ้น: โดยเปิดร้านร่วมกัน เช่น กสิกร, true, เสี่ยวมี่

6.บุกตลาด IOT มากขึ้น: “เราจับมือกับพันธมิตรอย่างเสี่ยวมี่แล้วเพื่อเปิดตลาด IOT”

7.เปิดธุรกิจใหม่ๆ เช่น mobile check up ให้ลูกค้ามาเช็คสมาร์ทโฟน ทำความสะอาดอบโอโซนและอโรม่า ฟรี ทุกวันศุกร์ และเสาร์

บริการตรวจเชคมือถือเป็นบริการฟรี แต่จริงๆแล้ว COM 7 จะได้ฐานข้อมูลไปครับ เช่นอะไร? เช่น ตอนนี้คนส่วนใหญ่ที่มาใช้บริการเป็น Android 72% และ เป็น ios 28% ครับ
ในขณะที่ราคาเครื่องส่วนใหญ่คือ 7,500-15,000 บาทคิดเป็นสัดส่วน 52%

แต่ข้อมูลที่น่าสนใจคือเครื่องที่เอามาตรวจ มีเครื่องที่สมบูรณ์สัดส่วน 82% แต่มีปัญหามากถึง 18% (ปัญหาหน้าจอ 10%, ปัญหากล้อง 5%, speaker 3%) “COM7 จะเป็นคนแรกที่บอกว่า มือถือของลูกค้ามีปัญหา และจะเป็นคนแรกที่ซ่อมให้ลูกค้า”
และลูกค้าก็สามารถเอาเครื่องเก่ามาแลกเครื่องใหม่ได้ ทำให้ภาพรวม COM7 มีรายได้สูงขึ้นทางอ้อม ในขณะที่ลูกค้าก็ใช้เงินไม่เยอะในการซื้อเครื่องใหม่ครับ
===========
อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่เน้นมากคือ การขยายสาขาครับ
ปีนี้จะเพิ่มทั้งหมด 200 สาขา โดย banana จะเพิ่ม 110 สาขา จากบริษัทแม่ 40 สาขา และ แฟรนไชส์ 70 สาขา
ในขณะที่สาขาย่อยๆอย่าง BKK ก็จะเร่งขยายสาขาอย่างหนักเช่นกันครับ

ตอนนี้ COM7 มีสาขาในกทม. 30% นอกนั้นอยู่ต่างจังหวัดครับ ใกล้เคียงกับ Banana ครับ แต่ส่วนที่ต่างคือ ร้านขายโทรศัพท์ขนาดเล็ก อย่าง BKK กับ Kingkong มีสาขาในต่างจังหวัด สัดส่วน 80% ครับ
โดยคอนเซปใหม่ๆ ที่ทางร้านจะเดินเกมรุกเปิดมากขึ้นมี 4 แบบด้วยกันครับ
1. New Concept storeเปลี่ยนลุค เปลี่ยนบรรยากาศใหม่,
2. ร้าน Game น่าจะเปิดได้ในช่วงไตรมาสที่ 3 โดยตั้งใจจะเปิดประมาณ 3-5 สาขาในปีนี้,
3. ร้านกลุ่มสินค้า Internet of things (เห็นสินค้าแห่งอนาคตเช่น smart home, เล่นกีฬา),
4. Mobile Accessory
===========
แอบดูเป้าหมายของเค้าหน่อยครับ
“คาดว่าผลประกอบการจะทำสถิติใหม่ต่อเนื่อง โดยมองว่ารายได้จะเติบโตมากกว่า 10%”
นอกจากนี้ยังเดินหน้าขยายสาขา รุกตลาดแฟรนไชส์ E commerce และบริหาร product mix ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยในปีนี้เตรียมงบลงทุนไว้กว่า 300 ล้านบาทครับ
===========
ไม่อยากพลาด! Add [email protected] ไว้นะครับ
คลิก https://line.me/ti/p/%40Tam-eig