
คำว่า triple win strategy คือ อยากจะ win แรก คือ บุกตลาดเมียนมา ตอนนี้เข้าไปสร้างโรงงานในเมียนมาด้วยเงินลงทุน 2,400 ล้านบาท
Win ที่ 2 คือ อยากจะบุกตลาด กัมพูชา ลาว อินโดนีเซีย และเวียดนาม (ต้นปีที่ผ่านมาเอาสินค้า personal care เข้าไปลองวางขายในตลาดเวียดนามแล้ว)
ส่วน win ที่ 3 คือ การบุกตลาดจีน แต่ผู้บริหารเองก็ยอมรับว่าแม้ว่าจีนเป็นตลาดที่ใหญ่แต่ก็เป็นตลาดที่ไม่ง่ายเลยครับ
===========
OSP จะเน้นการเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าในเครือ
“โครงการนี้เรียกว่า Fitness First ครับ เป็นโครงการที่จะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า และมีเงินเหลือเพื่อนำไปลงทุนต่อหรือจ่ายคืนให้กับผู้ถือหุ้น”

ในช่วงที่ผ่านมา OSP ใช้กลยุทธ์หลายอย่างเช่น ใช้น้ำตาลคนละชนิดก็จะมีต้นทุนที่แตกต่างกัน แต่ต้องมีรสชาติที่เหมือนเดิม
นอกจากนี้ยังมีการใช้กลยุทธ์ revenue management คล้ายๆกับธุรกิจสายการบิน โดยมีการกำหนดราคาสินค้าที่แตกต่างกันของสินค้าแต่ละชนิด หรือขึ้นอยู่กับขนาดของสินค้าเป็นต้น
===========
ตอนนี้ OSP ทำตามเป้าหมายได้ขนาดไหนแล้ว?
1. OSPยังต้องการรักษาส่วนแบ่งการตลาดของเครื่องดื่มชูกำลังให้ได้ 53.7% ในไตรมาสที่ 1

2. OSP ต้องการพัฒนาสินค้าเครื่องดื่ม functional drink มากขึ้นและเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดจากเดิม 28.3% ในปีที่แล้วเพิ่มขึ้นเป็น 35.6% ในไตรมาสที่ 1 นี้
3. นอกจากนี้ยังมียอดขายสินค้าประเภทpersonal care เพิ่มขึ้น 6.4%
4. ยอดขายต่างประเทศใน CLMV เพิ่มขึ้น 11.8% โดยหลักๆการเติบโตมาจาก personal care ที่พุ่งกระฉูดวิ่งไป 31.6% (อัตราทำกำไรก็สูงกว่าเครื่องดื่ม)

5. สำหรับต้นทุนที่สามารถลดได้จากโครงการ Fitness First ช่วยทำให้อัตราทำกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 34.8%
===========
ตลาดต่างประเทศมีโอกาสเติบโตอีกมาก
“ตลาดจีนยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพอย่างมากทางเราเองก็กำลัง study อยู่” ปัจจุบันคนจีนยังดื่มเครื่องดื่มชูกำลังน้อยมากแค่ 2.2 ลิตรต่อคนต่อปีน้อยกว่าไทย 4 เท่าน้อยกว่าสหรัฐ 12 เท่า

ส่วนตลาดเวียดนามเองก็เป็นตลาดที่น่าสนใจเพราะมีจำนวนคนกว่า 90 ล้านคนโดยช่วงต้นปีได้ไปเปิดตลาด babi mild แล้วตอนนี้กำลังศึกษาตลาดเครื่องดื่ม
อีกหนึ่งตลาดที่น่าสนใจคือคือตลาดเครื่องดื่มตู้หยอดเหรียญ
===========
ผลประกอบการไตรมาสที่ 1 โตกว่า 13%
OSP มีกำไรสุทธิ 888 ล้านบาท (เลขสวยมาก) เพิ่มขึ้น 13.4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 14.0% (เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่เคยอยู่ที่ระดับ 12.8%)

“บริษัทฯ พอใจกับผลการดำเนินงานในไตรมาสที่1 ที่เติบโตดีทั้งรายได้และกำไร สะท้อนถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่มีขีดความสามารถการแข่งขันที่ดีทั้งในประเทศและภูมิภาคอาเซียน” ผู้บริหารบอกครับ

แต่ธุรกิจที่เป็นตัวถ่วงลงมามาจาก OEM ครับที่ร่วงไป 46.5%

===========
เป้าหมายของ OSP คืออะไรครับ?
ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 5% โดยมาจากหลายอย่างครับ
1. OSP วางแผนเปิดตัว 2-4 ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มใหม่ เน้นที่กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่มีการเติมส่วนผสมเพื่อให้ได้คุณสมบัติเฉพาะ และของใช้ส่วนบุคคล
2. ยอดขายจากต่างประเทศโดยเฉพาะเมียนมาและเวียดนาม ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มยังมียอดขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
3. โรงงานหลอมแก้วใหม่ที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ สามารถผลิตขวดแก้วที่บางและมีน้ำหนักทำให้ต้นทุนดีขึ้น โดยจะเปิดดำเนินการในช่วงไตรมาส 4
4. ส่วนโรงงานผลิตเครื่องดื่มในนิคมอุตสาหกรรมติละวา เมียนมา คาดจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4 ด้วยเช่นกัน
5. นอกจากนี้ OSP ยังเตรียมวางแผนที่จะนำผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องดื่มให้พลังงานไปขายที่อังกฤษ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เข้าลงทุนในบริษัท Basecamp Brews Limited ซึ่งเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มให้พลังงาน ที่แม้ว่าขนาดของบริษัทยังไม่ใหญ่มากในปัจจุบัน แต่ถือเป็นสตาร์ทอัพที่มีโอกาสในการเติบโตสูงมาก
===========
ไม่อยากพลาด! Add line@ ไว้นะครับ
คลิก https://line.me/ti/p/%40Tam-eig