“ทำไมกระแสเงินสด ถึงเป็นเส้นเลือดของธุรกิจ”
“ถ้าผมอยากรู้ว่าบริษัทไหน น่าลงทุนหรือไม่ ผมจะไม่ถามนักวิเคราะห์หุ้นครับ” คุณปู่วอร์เรน บัฟเฟตต์เคยพูดในที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อนานมาแล้ว
สิ่งที่ปู่จะทำคือ การเข้าไปคุยกับนักวิเคราะห์สินเชื่อของธนาคาร เหตุผลคือ นักวิเคราะห์หุ้นหลายคนจะเน้นเรื่องกำไรของบริษัท แต่นักวิเคราะห์สินเชื่อจะเน้นเรื่องกระแสเงินสด (ว่าจริงๆแล้วมีเงินอยู่กระเป๋าเท่าไร จะมีโอกาสจ่ายเงินคืนธนาคารหรือไม่)
คุณปู่เชื่อว่า การลงทุนที่ดี คือการลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพ เติบโตได้อย่างยั่งยืน
และการบริหารกระแสเงินสดที่ดี คือ สิ่งสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจอยู่รอดได้ในระยะยาว ไม่ใช่ตัวเลขกำไรสวยๆที่โชว์ในบัญชีครับ

===========
“กระแสเงินสดเปรียบเสมือนกับเส้นเลือดหล่อเลี้ยงร่างกาย”
เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นความสำคัญของกระแสเงินสดที่ชัดเจนมากครับ ในมุมมองของ พี่วรรณี จันทามงคล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ด้านบัญชีและการเงิน บมจ. โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ หรือ HMPRO
พี่วรรณี เล่าให้ผมฟังเมื่อไม่นานมานี้ว่า ตอนนี้ HMPRO มีจำนวนสาขาในไทยกว่า 86 สาขา, มีสินค้าขายภายในร้านกว่า 4 หมื่นรายการ, มียอดขายทะลุ 64,000 ล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว
และด้วยมูลค่าตลาด (Market Cap) เกือบ 1.8 แสนล้านบาท ทำให้ HMPRO ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้นำสินค้าวัสดุ และอุปกรณ์ตกแต่งบ้านของไทยในทุกมิติครับ
===========
“คุณอิก เชื่อไหมว่า HMPRO เกือบจะไม่มีวันนี้ เพราะเจอวิกฤติต้มยำกุ้งคะ” พี่วรรณี เล่าให้ผมฟังด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
ผลจากวิกฤติเศรษฐกิจครั้งประวัติศาสตร์ครั้งนั้น ทำให้กำลังซื้อของคนไทยหายไปมากครับ แต่ประเด็นสำคัญคือ แม้ว่ายอดขายจะลดลงบ้าง แต่พี่วรรณีบอกว่า ยังพอขายได้ ทำให้บริษัทยังมีกำไร
“คำว่ามีกำไร พี่หมายถึงว่ามีกำไรทางบัญชีนะคะ แต่ที่ HMPRO เกือบเจอวิกฤติ คือตอนนั้น แบงค์รัดเข็มขัดการปล่อยกู้ ทั้งๆที่กิจการยังเติบโต แต่เรายังต้องจ่ายตังให้กับเจ้าหนี้การค้า (supplier)” จุดนี้แหละครับ คือสิ่งที่พี่วรรณีบอกว่า กระแสเงินสดเปรียบเสมือนกับเส้นเลือดหล่อเลี้ยงร่างกาย
พอเลือดใหม่ไหลเข้าช้า แต่เลือดในร่างกายไหลออกไปมากกว่า (เพราะต้องจ่ายตังค์ให้กับเจ้าหนี้การค้า ที่สั่งซื้อสินค้าไป) เมื่อนั้นวิกฤติก็เริ่มมาเยือนครับ
ผู้บริหาร HMPRO ใช้กลยุทธ์เจรจากับเจ้าหนี้เป็นรายบุคคล ขอทยอยจ่ายหนี้คืน โดยที่ไม่ได้ขอลดหนี้ (Haircut) สักบาท เป็นตัวอย่างที่ดีมากเลยครับ
พอกำลังซื้อเริ่มกลับมา บวกกับการที่ HMPRO ขยายกิจการไม่หยุดนิ่ง ทำให้เครดิตความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นอย่างมาก แบงค์กลับมาปล่อยกู้อีกครั้ง มีกระแสเงินสดไหลเวียนร่างกาย กลับมารุ่งเรืองได้อีกครั้ง
===========
แล้ววิธีการบริหารกระแสเงินสดที่ดี พอจะมีอะไรบ้าง?
1. สร้างสมดุลระหว่างเงินสดรับ และเงินสดจ่าย
“สิ่งที่พี่วรรณี และผู้บริหาร HMPRO เรียนรู้ได้จากวิกฤติครั้งนั้นคืออะไรครับ แล้วมีผลต่อนโยบายการบริหารกระแสเงินสดในปัจจุบันยังไงครับ” ผมยิงคำถามตรงๆตามสไตล์ของผมกับพี่วรรณีครับ
พี่วรรณีเล่าให้ฟังว่า HMPRO ต้องรื้อแนวทางการบริหารเงินสดให้มีความชัดเจน และได้มาตรฐานมากขึ้น มีหลักคิดง่ายๆคือ ทำให้เงินสดรับมากกว่าเงินสดจ่าย นั่นเองครับ
“HMPRO เป็นธุรกิจซื้อมา-ขายไป หลักคิดสำคัญคือต้องบริหารเงินทุนหมุนเวียนให้ดี ต้องสร้างสมดุลระหว่าง เงินที่ต้องจ่ายให้กับเจ้าหนี้การค้า (supplier) กับรายได้ที่รับจากลูกค้า”
พี่วรรณี เล่าต่อว่า สมมติว่า เราได้เครดิตเทอมจากเจ้าหนี้การค้า (supplier) 30 วัน หมายถึง เรายังไม่ต้องจ่ายเงินทันที แต่มีเวลาในการจ่ายเงินให้กับเจ้าหนี้การค้า (supplier) ภายใน 30 วัน
ในขณะที่เราขายสินค้าและเก็บเงินจากลูกค้าได้ภายใน 7 วัน นั่นเท่ากับว่าเรามีเลือดหมุนเวียน ช่วยหายใจได้เพิ่มอีก 23 วัน (30 วัน – 7 วัน) แถมยังสามารถเอาเงินไปต่อยอดสร้างโอกาสได้อีกมากมายครับ ก่อนที่จะชำระเงินให้กับเจ้าหนี้การค้า (supplier)
ส่วนตัวเลขเครดิตเทอมที่จะจ่ายเงินให้กับเจ้าหนี้การค้า (supplier) จะเป็นเท่าไหร่ คงต้องขึ้นอยู่กับธรรมชาติของแต่ละธุรกิจด้วยครับ

===========
2. ปล่อยเครดิตให้ลูกค้าต้องมีเทคนิค
แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าเราต้องเป็นฝ่ายปล่อยเครดิตกับลูกค้า ให้เค้าจ่ายช้าได้บ้าง ก็สามารถทำได้ในกรณีที่จะเป็นประโยชน์สำหรับการทำธุรกิจ แต่ต้องดูประวัติการซื้อของลูกค้าให้ดีด้วยนะครับ
หรือเราอาจจะให้แรงจูงใจกับลูกค้า เช่น ถ้าลูกค้าจ่ายเงินเร็วขึ้นกว่ากำหนด เค้าจะได้ส่วนลดเพิ่ม เป็นต้นครับ (เป็นอีกเทคนิค ที่ใช้ได้ผลนะครับ พวกเราก็ได้ตังค์จากลูกค้าเร็วขึ้นด้วย)
===========
3. ทำงบประมาณคาดการณ์รายรับ รายจ่ายล่วงหน้า
“บริษัทที่ดีควรจะต้องมีการคาดการณ์เงินสดรับ, เงินสดจ่าย, และงบลงทุนในอนาคตให้ดี”
พี่วรรณีเล่าให้ฟังว่า ที่ HMPRO จะมีการวางแผน รายรับ, รายจ่ายและงบลงทุน แบ่งเป็น ระยะสั้น-ระยะยาว ครับ
ระยะยาว ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจด้วยครับ เช่น 3-5 ปี เรามองว่าจะขยายธุรกิจในอาเซียนมากขึ้น หรือจะเน้นสัดส่วนออนไลน์มากขึ้นแค่ไหน (จะเริ่มเห็นภาพแล้วว่า อนาคตต้องลงทุนใหญ่ๆ ไปกับเรื่องไหนบ้าง)
แล้วในระยะสั้น ก็สำคัญเช่นกัน เพราะเราจะรู้เลยว่า ช่วงไหนเงินของเราอาจจะขาดมือบ้าง
“ที่ HMPRO จะทำการคาดการณ์กระแสเงินสดเป็นรายเดือนด้วย เพื่อประเมินว่า ช่วงไหนต้องเตรียมเงินเท่าไหร่”
แล้วถ้าวางแผนให้ดี เราจะรู้เลยว่า เราต้องหาเงินมาจากที่ไหน มูลค่าเท่าไหร่ และควรกู้แบบไหนถึงจะได้ต้นทุนต่ำที่สุด
คนส่วนใหญ่มักจะยังไม่เห็นปัญหาของกระแสเงินสด เพราะธุรกิจยังขายของได้ดี แต่เวลาที่เกิดปัญหามันจะถ่าโถมเข้ามาชนิดที่เราไม่ทันตั้งตัวเลยครับ เห็นด้วยไหมครับ

===========
4. พยายามขายของให้เร็วที่สุด
สาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้กระแสเงินสดขาดมือ คือ การที่เงินจมไปกับสินค้าที่ยังขายไม่ออก เพราะฉะนั้นถ้ามีระบบวิเคราะห์ว่าสินค้าไหนขายดี หรือสินค้าไหนขายไม่ออก เราควรจะต้องมีสต๊อกสินค้าเท่าไหร่ และต้องบริหารจัดการอย่างไร ก็จะช่วยเพิ่มกระแสเงินสดได้ครับ
===========
5. มีแหล่งเงินกู้สำรองไว้
ไม่ได้แนะนำให้ไปกู้ทุกคนนะครับ เงินกู้มีหลายประเภท เช่น เงินกู้เพื่อให้เป็นเงินหมุนเวียน, เงินกู้ระยะสั้น หรือเงินกู้ระยะยาว แต่เหตุผลที่ต้องมีแหล่งเงินกู้ไว้บ้าง เป็นเพราะ “ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน”
ไม่มีใครรู้ว่าเราจะเจอวิกฤติเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้นถ้ามีเงินสำรองไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน ก็จะช่วยต่อลมหายใจในช่วงไม่คาดฝันได้ครับ

===========
สุดท้ายนี้ ….
หลายคนทำธุรกิจ ขายดีมาก มีกำไร แต่เจ๊ง!! ไม่ใช่ว่าขายไม่ดีนะครับ แต่เพราะหมุนเงินไม่ทัน อาจจะเป็นเพราะวางแผนไม่ดีทำให้เงินขาดมือ หรือมองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจ ได้งานโปรเจคที่ใหญ่ขึ้น แต่กระแสเงินสดไม่พอ เลยหมุนไม่ทัน
คำแนะนำของผมคือ อย่ารอให้เจอวิกฤติแล้วค่อยเรียนรู้ครับ ลองเรียนรู้จากบทเรียนของพี่ วรรณี แห่งค่าย HMPRO ที่ได้รับจากการเจอมรสุมวิกฤติเศรษฐกิจ จนปรับนโยบายทางการเงินได้ดี
หรือถ้าใครกำลังมีแผนที่จะขยายธุรกิจ และกำลังมองหาเงินกู้ระยะยาว เพื่อเพิ่มกระแสเงินสดหรือสภาพคล่อง ก็ลองหาข้อมูลเงินกู้ SME สินเชื่อเกินร้อย ของทางกรุงศรีดู เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกนะครับ แต่อย่าลืมว่า การกู้เงินมีดอกเบี้ยเป็นต้นทุน ดังนั้น ต้องประเมินความสามารถในการชำระคืนด้วยนะครับ เพราะอย่าลืมที่ปู่บัฟเฟตต์สอนไว้ว่า “กระแสเงินสด เป็นเส้นเลือดของธุรกิจ”รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก